ม็อบเขมรส่วนหนึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ รู้ว่ามาจากไหนยิ่งพีก

อุ๊ยโป๊ะ! ชาวบ้านส่วนหนึ่งในม็อบเขมรไม่ใช่คนในพื้นที่ รู้ว่ามาจากไหนยิ่งเซอร์ไพรส์ ยิ่งกว่าคือโฉมหน้าคนบงการม็อบกัมพูชา
สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชายังคงตึงเครียดและต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานว่าชาวกัมพูชาบางส่วนได้บุกเข้ามาในพื้นที่ โดยอ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา ต่อมา เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” ได้ออกมาโพสต์เตือนพร้อมระบุโทษทางกฎหมายไทย หากชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามา ได้แก่
- เข้าเมืองผิดกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
- ทำลายทรัพย์สินราชการ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ลักทรัพย์สินราชการ (เช่น เอาลวดหนามไป) จำคุก 1–7 ปี ปรับ 20,000–140,000 บาท
- ทำร้ายเจ้าหน้าที่ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
- หากกระทำการกระทบต่อเอกราชของไทย โทษสูงสุดถึง ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
- รวมแล้วอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 16 ปีหรือตลอดชีวิต และปรับกว่า 300,000 บาท
ข้อมูลจากเพจดังกล่าวเผยว่า นายอุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว โดยส่งชาวบ้านมารื้อรั้วลวดหนามของทหารไทย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 หลังการประชุมร่วมกับผู้ว่าฯสระแก้ว ซึ่งเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด
ภายหลังที่ฝ่ายไทยบังคับใช้กฎหมาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ฟ้องนานาชาติในทันที จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเอกสารที่ร่างเตรียมไว้แล้ว
นอกจากนี้ มีการตรวจพบว่าทุกครั้งที่ชาวบ้านกัมพูชารวมตัว มักจะมีนายอุม เรียไตร อยู่ในพื้นที่เสมอ พร้อมมีการจัดเตรียมรถพยาบาล เต็นท์พักพิง โรงทาน และอุปกรณ์ป้องกันให้กับผู้ชุมนุม
สายข่าวในพื้นที่ยังเปิดเผยว่า ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมไม่ใช่คนในพื้นที่จริง แต่ถูกเกณฑ์มาจาก พนมเปญ เสียมราฐ จอมกระสาน และสตรึงเตรง โดยมีความเชื่อมโยงทางการเมืองกับ พล.อ. แก กึมยาน ส.ส. จังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ใกล้ชิดกับ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ทั้งหมดจึงถูกมองว่าอาจเป็นการจัดฉากเพื่อสร้างความชอบธรรม และยกระดับความขัดแย้งไปสู่นานาชาติ

ดินสไลด์-หินถล่มปิดถนนสาย 12 เพชรบูรณ์ รถทุกชนิดสัญจรไม่ได้

ไม่ง่าย แต่สำเร็จ! เคน ภูภูมิ ทุ่ม 2 ปี ปลูกต้นทุเรียนต้นแรกในสวน

ลุ้นดาวหางเลมมอน C/2025 A6 อาจสว่างให้เห็นด้วยตาเปล่า

รายชื่อ ตำรวจแนวหน้า ได้รับบาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา
