นทท.ซื้อแพ็กเกจดำน้ำจากโรงแรม แต่ถูกเรือทิ้งให้ลอยคอ 45 นาที

นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนเกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังถูกทิ้งไว้กลางทะเลระหว่างทริปดำน้ำที่ประเทศมัลดีฟส์ ต้องลอยคออยู่นานกว่า 45 นาที ก่อนโชคดีมีเรือประมงผ่านมาและช่วยชีวิตไว้ทัน เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความไม่เป็นมืออาชีพของผู้ให้บริการ

 

ผู้ประสบเหตุรายนี้คือ “ซูม่าน” (นามสมมติ) ซึ่งมีประสบการณ์ดำน้ำถึง 9 ปี และเคยเป็นนักดำน้ำกู้ชีพ เธอเล่าว่าเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำที่โรงแรมจัดให้ โดยมีครูฝึกดำน้ำประกบดูแล และมีสต๊าฟอยู่บนเรือเพียง 2 คน แต่ตั้งแต่เริ่มต้นก็เกิดปัญหา อุปกรณ์ดำน้ำของเพื่อนชื่อ “จางลี่” (นามสมมติ) ขัดข้อง ท่อออกซิเจนใช้ไม่ได้ แต่ครูฝึกกลับไม่เปลี่ยนถังใหม่ และให้นักท่องเที่ยวลงน้ำต่อไป

 

ระหว่างดำน้ำ ซูม่านอยู่ที่ระดับความลึกกว่า 10 เมตร ส่วนจางลี่อยู่กับครูฝึกใกล้ผิวน้ำ หลังสิ้นสุดการดำน้ำและลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ กลับพบว่าเรือของโรงแรมหายไปไกลหลายร้อยเมตร ครูฝึกพยายามส่งสัญญาณ แต่ไม่เป็นผล กระแสน้ำยิ่งพัดให้ทั้งสามคนลอยห่างออกไป

 

สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อทุ่นลอยที่ใช้ระบุตำแหน่งกลับรั่ว ไม่สามารถใช้ได้ ซูม่านเสนอวิธีนำไม้เซลฟี่มาผูกกับทุ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ครูฝึกกลับปฏิเสธ จนกระทั่งทั้งสามคนเริ่มหมดแรง จางลี่เกือบควบคุมตัวเองไม่ไหว สุดท้ายครูฝึกยอมทำตามวิธีของซูม่าน และโบกไม้เซลฟี่ผูกทุ่น จนเรือประมงผ่านมาเห็นและเข้าช่วยไว้ได้

 

ซูม่านเผยว่า สิ่งที่น่าตกใจคือ หลังเกิดเหตุ เรือของโรงแรมไม่ได้พยายามค้นหาหรือช่วยเหลือใด ๆ ทั้งที่เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงครึ่ง สะท้อนถึงการจัดการที่ขาดมาตรฐานและความปลอดภัย นอกจากนี้ สต๊าฟบนเรือยังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เกือบโยนนักท่องเที่ยวลงทะเล และไม่ให้คำแนะนำที่ชัดเจน

 

หลังรอดชีวิต ซูม่านร้องเรียนไปยังผู้จัดการโรงแรม แต่กลับได้รับการแก้ปัญหาเพียงเล็กน้อย โดยโรงแรมลดค่าใช้จ่ายให้เธอเพียง 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 630 บาท) ส่วนเพื่อนต้องจ่ายเต็มราคา ขณะที่ครูฝึกพยายามติดต่อและกดดันไม่ให้เธอร้องเรียนต่อ

 

เมื่อกลับประเทศ ซูม่านนำวิดีโอจากบอดี้แคมเผยแพร่บนโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปรีวิวแย่ ๆ ให้โรงแรม ส่งผลให้ถูกถอดชื่อออกจากเว็บจองห้องพักชั่วคราว แต่ไม่นานโรงแรมกลับเปลี่ยนชื่อใหม่และเปิดรับลูกค้าอีกครั้ง ซึ่งซูม่านย้ำว่าหากไม่มีการปรับปรุง อาจทำให้นักท่องเที่ยวรายอื่นต้องเผชิญอันตรายเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก Hk01