"คนละครึ่ง 2568" เช็กห้ามซื้อสินค้าและบริการ อะไรบ้าง

"โครงการคนละครึ่ง 2568" รัฐบาลอนุทิน เช็กขอบเขตการใช้จ่าย ห้ามซื้อสินค้าและบริการ อะไรบ้าง คาดเริ่มโครงการในเดือนตุลาคม
"คนละครึ่ง 2568" วันที่ 11 ก.ย. 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย ถึงความชัดเจนการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ว่า ขณะนี้ ว่าที่ รมว.คลัง กำลังเก็บข้อมูลและทำการบ้านอย่างหนัก
โดยกระทรวงการคลังได้ยืนยันว่ามีงบประมาณเบื้องต้น จะใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 จำนวน 2.5 หมื่นล้าน หาก ครม.ใหม่เข้ามาทัน ก็สามารถนำงบส่วนนี้มาใช้ได้ ทั้งนี้ ต้องดูจากการแถลงนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีผลต่อโครงการนี้ด้วย แต่ถึงอย่างไรขณะนี้ นายกฯ ก็อยากจะทำมากกว่านี้วงเงิน 2.5 หมื่นล้าน
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มที่จะได้สิทธินั้น รอบก่อนเริ่มอายุ 18 ปี หรือกลุ่มเปราะบาง แต่รอบนี้อาจจะขยายไปยังกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนการได้สิทธิ 60 : 40 เพียงยื่นภาษีที่กลุ่มนี้มีประมาณ 11 ล้านคน ก็จะได้สิทธิเช่นกัน ส่วนมาตรการจูงใจกลุ่มร้านค้าที่อยากร่วมโครงการ แต่ยังกังวลเรื่องการเก็บภาษีนั้น นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ถ้าขายดียังไงก็ต้องเสียภาษี เพราะเป็นหน้าที่ แต่จะไม่มีการคิดภาษีย้อนหลัง เชื่อว่าตราบใดที่ผู้ค้าขายของได้ เขาก็จะยอมเสียภาษี แต่ไม่อยากถูกเช็กบิลย้อนหลัง
ส่วนประเภทสินค้าต้องห้ามที่จะใช้ในโครงการนั้น ขณะนี้ทีมงานกำลังพิจารณาอยู่ แต่ยอมรับว่าน่าจะเป็นประเภทสินค้าและบริการเดิมๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับขอบเขตการใช้จ่าย คือ สิทธิในโครงการครอบคลุมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งบริการบางประเภท เช่น ร้านทำผม ร้านนวด แต่ไม่ครอบคลุมสินค้าต้องห้าม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึง บัตรกำนัล (gift voucher/gift card) บัตรเงินสด (cash card) และบริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า (prepaid)