บทลงโทษ สิงโต 5 ตัว หลังก่อเหตุสะเทือนใจจนเจ้าหน้าที่เสียชีวิต

จากกรณีของ ลุงเจียน รังคะรัสมี อายุ 58 ปี เสียชีวิตจากการถูกสิงโตรุมทำร้ายกลางสวนสัตว์ชื่อดัง ด้าน น.ส.รัตนา รังคะรัสมี อายุ 51 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาทำเรื่องรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งน.ส.รัตนา เปิดเผยว่า หลังจากนี้ครอบครัวจะทำพิธีตามความเชื่อของชาวมอญ โดยจะนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าที่เก็บศพของวัดเป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากถือว่าเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ หากเผาทันที เชื่อกันว่าจะส่งผลไม่ดีต่อคนในครอบครัว เมื่อครบกำหนดจึงจะจัดพิธีสวดอภิธรรม 3 วัน 3 คืน ก่อนทำการฌาปนกิจตามหลักศาสนาพุทธ

 

ล่าสุด นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงกรณีสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เสียชีวิต ยืนยันสิงโต 5 ตัวที่ก่อเหตุถูกกักให้อยู่ในกรงและอยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรม เนื่องจากแสดงพฤติกรรมทำร้ายมนุษย์ หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไขอาจกลายเป็นความเคยชิน หากปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว พร้อมย้ำห้ามสวนสัตว์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปใกล้ชิดกับเสือ สิงโต หรือช้าง เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสัญชาตญาณของสัตว์ได้

 

พร้อมกันนี้ กรมอุทยานฯ ได้สั่งปิดโซนสัตว์ดุร้ายของสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์โดยไม่มีกำหนด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ทุกด้านเข้าตรวจสอบความแข็งแรงของกรงใหญ่ ระบบป้องกันสัตว์หลุด การให้บริการนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงการมีอุปกรณ์หยุดยั้งสัตว์ในภาวะฉุกเฉิน เช่น ปืนยาสลบ กระบองไฟฟ้า และแผนการช่วยเหลือฉุกเฉิน

 

ก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง สวนสัตว์ต้องแสดงความพร้อมรอบด้าน โดยมีการสาธิตมาตรการป้องกัน แผนเผชิญเหตุ การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ รวมถึงการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เห็นชัดเจน
 

 

นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ยังเตรียมตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดรวม 5 แห่ง ได้แก่
 1. ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ
 2. ซาฟารีปาร์ค แอนด์ แคมป์ จ.กาญจนบุรี
 3. สวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี
 4. ไทเกอร์ พาร์ค จ.ชลบุรี
 5. ไทเกอร์ พาร์ค จ.ภูเก็ต

ปัจจุบันมีสิงโตขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ 620 ตัว จากผู้ครอบครอง 85 ราย แบ่งเป็นสวนสัตว์ 10 ราย ที่เหลือเป็นเอกชนและสถานเพาะเลี้ยง โดยตั้งแต่ปี 2567 มีคำสั่งห้ามนำเข้าสิงโต และต้องตรวจสอบการเลี้ยงให้เป็นไปตามมาตรฐาน หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดจะถูกยึด

 

อย่างไรก็ตาม นายอรรถพลย้ำว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการเข้มงวดด้านความปลอดภัย หากไม่มีการซักซ้อมหรือปล่อยปละจนกลายเป็นความเคยชิน อาจนำไปสู่ความประมาทและความสูญเสีย ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว ซึ่งกรมอุทยานฯ จะเข้มงวดตรวจสอบให้รัดกุมยิ่งขึ้นก่อนอนุญาตให้เปิดบริการอีกครั้ง