จับกุมอภิมหาโจร ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ทั่วไทยมากว่า 30 คดี

ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมอภิมหาโจร เคยตระเวนก่อเหตุ ลักทรัพย์ทั่วไทยมากว่า 30 คดี ก่อนสิ้นลาย! ถูกตำรวจทางหลวงดักรวบกลางถนน
ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยจับกุมได้ที่ ช่วง ถ.เพชรเกษม ช่วง กม.129 ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ตรวจสอบรถต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์เขตอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีดำ โดยรถคันดังกล่าวใช้ถนนเพชรเกษม กำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถ แต่ปรากฏว่ารถดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนี จนถึงช่วง ถ.เพชรเกษม ช่วง กม.129 ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหยุดรถต้องสงสัยดังกล่าวไว้ได้ ตรวจสอบในรถพบผู้ต้องหาเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดูและควบคุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์มาแล้วกว่า 30 คดี พอพ้นโทษ ก็กลับมากระทำความผิดลักทรัพย์อีก โดยพยายามร่วมกันกระทำผิดหลายๆ คนกับเพื่อนในสมัยที่เคยจำคุกมาด้วยกัน โดยผู้ต้องหาเป็นอาชญากรที่ระดับวางแผนสั่งการ ก่อนจะพลาดท่าถูกดำเนินคดีและพ้นโทษออกมา และได้มาตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในหมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 10 หลัง ซึ่งได้ทรัพย์สินไปเป็นทองคำน้ำหนัก 20 บาท กับเงินสด พระเครื่องและของมีค่าอื่นๆ มากกว่า 2 ล้านบาท และยังได้ขยายผลได้ผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 1 ราย
จากการตรวจสอบคดีอาญาย้อนหลังพบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รายสำคัญ ซึ่งก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยในอดีต เมื่อ 20 พ.ย. 2557 นั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประชุมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่ามาจากคดีลักทรัพย์ อาทิ เงิน ทองรูปพรรณ พระเครื่อง พระพุทธรูปบูชา วัตถุมงคล เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา ฯลฯ ไม่ปรากฏผู้เสียหายมายืนยันของกลาง รวมทั้งสิ้น 1,983 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ดำเนินการ
ที่มา : ตำรวจสอบสวนกลาง

ฝนถล่มทั่วไทย! กรมอุตุเตือน 11 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมหนัก 3 พ.ย. นี้

เปิด 6 ช่วงเวลา “ห้ามอาบน้ำ” ที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ

คยองจู เกาหลีใต้ เปิดสมบัติ อาณาจักรชิลลา แหล่งมรดกโลก

เปิดสถิติ 10 โรคฮิตผู้ป่วยนอก - ผู้ป่วยใน สิทธิบัตรทอง ปี 2567
















