เปิดที่มา สำนวนเก่าแก่ "ชักแม่น้ำทั้งห้า" ทำไมยังใช้จนถึงทุกวันนี้

รู้หรือไม่? สำนวนไทย “ชักแม่น้ำทั้งห้า” ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่มีรากมาจากวรรณคดีและวัฒนธรรมอินเดียโบราณที่ยก “แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า”
สำนวนไทย “ชักแม่น้ำทั้งห้า” เป็นคำพูดที่ใช้กันทั่วไปเพื่อหมายถึงการอธิบายยืดยาว หยิบยกเหตุผลหลากหลายประการมาเสริมจนฟังดูหนักแน่น แต่ในอีกมุมก็แฝงความหมายประชด ว่าผู้พูดพยายามหาข้ออ้างเกินจำเป็นเพื่อโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อ
ที่มาในวรรณคดีไทย
สำนวนนี้ปรากฏใน มหาเวสสันดรชาดก ตอนที่ชูชกจะทูลขอสองกุมารจากพระเวสสันดร แต่ไม่พูดตรงๆ หากเปรียบเทียบว่าดังแม่น้ำทั้งห้าในชมพูทวีปที่ไหลหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คน เช่นเดียวกับน้ำพระทัยของพระเวสสันดร จึงเกิดเป็นอุปมาที่ภายหลังถูกนำมาใช้ในภาษาไทย
แม่น้ำทั้งห้าที่ปรากฏในความเชื่อ ได้แก่
1.คงคา (Ganges) – สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์
2.ยมุนา (Yamuna) – แม่น้ำสำคัญในตำนานอินเดีย
3.สรัสวดี (Sarasvati) – แม่น้ำในคัมภีร์โบราณ แม้จะสูญหายไปแล้ว
4.อจิรวดี/อิรวดี (Irrawaddy) – สายใหญ่ในพม่า เชื่อมโยงภูมิภาค
5.มหิ (Mahi) – แม่น้ำสำคัญในอินเดียตะวันตก
การใช้ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน “ชักแม่น้ำทั้งห้า” ใช้เมื่อใครก็ตามพยายามอธิบายด้วยเหตุผลมากมายเกินความจำเป็น เช่น เพื่อนหาข้อแก้ตัวมากมายเพื่อไม่รับผิดชอบ อาจถูกแซวว่า “เลิกชักแม่น้ำทั้งห้าได้แล้ว”
สรุป
สำนวนนี้จึงไม่ใช่เพียงคำพูดเล่นๆ แต่เป็นร่องรอยของการถ่ายทอดวัฒนธรรมจากชมพูทวีปสู่ไทย เชื่อมโยงทั้งศาสนา วรรณคดี และภาษา ทำให้ยังคงใช้สื่อความหมายได้อย่างชัดเจนมาจนทุกวันนี้
แหล่งที่มาอ้างอิง
1.มหาเวสสันดรชาดก ฉบับแปลไทย
2.กรมศิลปากร, พจนานุกรมสำนวนไทย
3.วัฒนธรรมชมพูทวีปในคัมภีร์ฮินดูและพุทธโบราณ

วงการลูกหนังเศร้า "อดีตโค้ชฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย" เสียชีวิตแล้ว

ส่งท้ายปีด้วยโชคดี หมอช้างเผย 5 ราศีดวงเด่นเดือนธันวาคม

อุตุฯเตือน ฝุ่นสะสมเพิ่ม อากาศเริ่มอุ่น เหนือ-อีสานยังหนาว

"จิตดี" ปล่อยโฮเผยถึง "ณัฐวุฒิ ปงลังกา" หลังทำงานร่วมกันมา 10 ปี
















