สรุปสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือน ก.ย. พร้อมวันโอนเงิน

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ว่าผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดได้ตามปกติ โดยในเดือนก.ย. 2568 จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกำหนดการดังนี้

วันที่ 1 ก.ย. 2568 (วงเงินสิทธิ ใช้ผ่านบัตรประชาชน)

ในวันแรกของเดือน ผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินซึ่ง ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมไปใช้ในเดือนถัดไปได้ประกอบด้วย

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน

วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (สำหรับงวดเดือนก.ค. - ก.ย. 2568)

วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ครอบคลุมทั้ง บขส., รถไฟ, ขสมก., รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 16-18 ก.ย. 2568 (เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ โอนเข้าบัญชี)

สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยซึ่งได้รับสิทธิในโครงการฯ จะได้รับ เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพในอัตรา 100 บาทต่อเดือนโดยเป็นการจ่ายย้อนหลัง 8 เดือน (ตั้งแต่เดือนก.พ. - ก.ย. 2568) ตามเดือนที่แต่ละคนได้รับสิทธิ กรมบัญชีกลางจะแบ่งการโอนเงินออกเป็น 3 รอบ ตามวันเดือนปีเกิดของผู้มีสิทธิ โดยเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก หรือบัญชีที่ได้แจ้งความจำนงไว้

รอบที่ 1: จ่ายวันที่ 16 ก.ย. 2568

รอบที่ 2: จ่ายวันที่ 17 ก.ย. 2568

รอบที่ 3: จ่ายวันที่ 18 ก.ย. 2568

วันที่ 19 ก.ย. 2568 (เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ โอนเข้าบัญชี)

ผู้มีสิทธิที่เป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือนอยู่แล้ว จะได้รับ เงินเพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาทต่อเดือน โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก หรือบัญชีที่ใช้รับเบี้ยความพิการเดิม

นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางยังได้รายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนส.ค. 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 1-31 ส.ค. 68) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,546.80 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 

วงเงินซื้อสินค้า 3,874.94 ล้านบาท 

เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 262.13 ล้านบาท

มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 193.77 ล้านบาท

วงเงินค่าเดินทาง 144.15 ล้านบาท

วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45.02 ล้านบาท

มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 26.79 ล้านบาท