5 วิธีแก้ปวดเมื่อย "Office Syndrome" ทำงานสบาย ตัวไม่พัง

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ไม่ใช่เรื่องปกติที่คุณต้องทน 5 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดและป้องกันไม่ให้ "ออฟฟิศซินโดรม" ทำลายสุขภาพของคุณกันเถอะ
5 วิธีแก้ปวดเมื่อย Office Syndrome ทำงานสบาย ตัวไม่พัง
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดหลังจากการนั่งทำงานนานๆ ไม่ใช่เรื่องปกติที่คุณต้องทน เพราะนี่คือสัญญาณเตือนของ Office Syndrome ที่อาจส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกาย มาดู 5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีความสุขและสุขภาพดีขึ้นได้จริง
1. ปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีระ
เริ่มต้นที่เก้าอี้และโต๊ะทำงาน ควรปรับให้หน้าจออยู่ในระดับสายตาเพื่อไม่ต้องก้มคอ เท้าควรวางราบกับพื้น และหลังควรตั้งตรงชิดกับพนักพิง การจัดท่านั่งให้ถูกหลักจะช่วยลดแรงกดทับของกล้ามเนื้อได้ดีที่สุด
2. ลุกเดินและพักสายตาบ่อยๆ
ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อยืดเส้นยืดสาย และใช้ กฎ 20-20-20 เพื่อพักสายตา นั่นคือทุก 20 นาที ให้มองไปที่วัตถุไกลประมาณ 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที
3. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อขณะนั่งทำงาน
ระหว่างวันสามารถทำท่ายืดง่ายๆ ได้ เช่น หมุนหัวไหล่ ก้มเงยศีรษะ หรือยืดแขนและข้อมือ ท่าเหล่านี้จะช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่สะสมตลอดวัน
4. เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม
ลงทุนกับอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ เช่น เก้าอี้เพื่อสุขภาพ (Ergonomic Chair) หรือแผ่นรองข้อมือสำหรับคีย์บอร์ดและเมาส์ ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าและป้องกันอาการบาดเจ็บในระยะยาว
5. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันกระดูกสันหลังและช่วยลดอาการปวดหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองหาเวลาเดินเร็ว โยคะ หรือว่ายน้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
อาการปวดเมื่อยที่มาพร้อมกับการทำงานออฟฟิศเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้

ครูสาวลาป่วย 16 ปี แต่ยังได้เงินเต็มๆ คำนวณรายได้แล้วร้องโอ้โห

"หมอช้าง" เปิด 2 ราศีช่วงนี้ มีเกณฑ์ดวงขัดแย้งเรื่องความรัก

สรุปราคาทองวันนี้ วันที่ 24 สิงหาคม 2568 ราคาทองอยู่ที่บาทละเท่าไหร่

สืบสานธรรมเนียมโบราณ เปิดเคล็ดลับปฏิบัติเสริมมงคลในวันสารทจีน
