สิทธิรักษาพยาบาลของรัฐ 2568 ครอบคลุมคนในครอบครัว ใครบ้าง

สิทธิรักษาพยาบาลของรัฐ 2568 เช็กสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการ ครอบคลุม "คนในครอบครัว" อย่างไร ในปี 2568 พร้อมอัปเดตสิทธิประโยชน์ล่าสุดที่ควรรู้

กรมบัญชีกลางแจกแจงสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการอย่างละเอียด ครอบคลุมใครบ้าง? เช็กสิทธิ์ครอบครัวล่าสุด

กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการสำคัญที่รัฐจัดสรรให้แก่บุคลากรภาครัฐ เพื่อสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่มั่นคงและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยระเบียบและหลักเกณฑ์การใช้สิทธิดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมบัญชีกลางอย่างเคร่งครัด

กลุ่มผู้มีสิทธิรับสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐ

สิทธิประโยชน์นี้ครอบคลุมบุคลากรภาครัฐในกลุ่มต่างๆ ดังนี้

• ข้าราชการและลูกจ้างประจำ: ผู้ที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานราชการ ยกเว้นข้าราชการตำรวจชั้นพลตำรวจที่อยู่ระหว่างการฝึกอบรม
• ลูกจ้างชาวต่างประเทศ: ผู้ที่มีสัญญาจ้างและได้รับค่าจ้างจากเงินงบประมาณ
• ผู้รับบำนาญ: ทั้งผู้รับบำนาญปกติ ผู้รับบำนาญพิเศษเพราะทุพพลภาพ และทหารกองหนุนที่ได้รับเบี้ยหวัด
• ข้าราชการการเมือง: ผู้ดำรงตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535

ครอบครัวของผู้มีสิทธิที่สามารถใช้สวัสดิการได้

สิทธิการรักษาพยาบาลของข้าราชการยังครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ ดังนี้

* บุตร: ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและมีสิทธิเพียง 3 คนแรกตามลำดับการเกิดเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่นับรวมบุตรบุญธรรม หรือบุตรที่ยกให้ผู้อื่นเป็นบุตรบุญธรรม โดยสิทธิจะครอบคลุมจนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะ เว้นแต่กรณีที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ

* คู่สมรส: คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศที่ไม่ขัดต่อกฎหมายไทยก็มีสิทธิ

•    กรณีพิเศษ: สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นชายและนับถือศาสนาอิสลามใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี, นราธิวาส, ยะลา, สตูล) สามารถใช้สิทธิให้คู่สมรสได้ไม่เกิน 4 คน ตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติกฎหมายอิสลาม พ.ศ. 2489

* บิดาและมารดา:
    * มารดา: ต้องเป็นมารดาโดยสายเลือด
    * บิดา: ต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหมายถึงกรณีที่จดทะเบียนสมรสกับมารดา, จดทะเบียนรับรองบุตร, หรือมีคำพิพากษาของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย