กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดต 7 - 21 ส.ค. ฝนถล่ม 15 วันรวด เสี่ยงน้ำท่วม

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวันและลมที่ระดับ 925hPa (750 เมตร) สำหรับช่วง 15 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 7 - 21 สิงหาคม 2568 โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ซึ่งวิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ พบว่าประเทศไทยจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 10 - 21 สิงหาคม 2568 ที่ฝนจะตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่

สรุปสถานการณ์พยากรณ์อากาศ

วันที่ 6 - 9 สิงหาคม 2568

ทั่วไทยจะมีเมฆมากและมีฝนฟ้าคะนองในระดับปานกลางถึงกระจายตัว โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก (จังหวัดจันทบุรีและตราด) สำหรับภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะยังมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลางในบางพื้นที่ อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลางจะช่วยคลายความร้อนลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนกระจายและคลื่นลมมีกำลังปานกลาง โดยเฉพาะในทะเลอันดามันตอนบน ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

วันที่ 10 - 21 สิงหาคม 2568

เป็นช่วงที่ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น อยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครกับปริมณฑล ปัจจัยหลักมาจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น และมีหย่อมความกดอากาศต่ำ รวมถึงร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบริเวณฝั่งอันดามัน ทำให้คลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงค่ำ เนื่องจากถนนลื่นในขณะฝนตกผู้ใช้รถใช้ถนนควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ ในช่วง 15 วันข้างหน้า ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง อย่างไรก็ตาม อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวในทะเลจีนใต้และอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งประชาชนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและไม่ตื่นตระหนกกับข่าวลือต่างๆ ในสื่อโซเชียล เนื่องจากฝนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับประเทศไทยในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน

ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการประมวลผลข้อมูลใหม่ ขอให้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดจากกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อความแม่นยำสูงสุด