กฎหมาย "PDPA" คืออะไร ? สรุป 5 ข้อเข้าใจง่ายในบทความเดียว

ในโลกที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บและนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย การเข้าใจสิทธิของตัวเองและหน้าที่ของผู้ประกอบการจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง กฎหมาย PDPA หรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้เข้ามามีบทบาทในการสร้างมาตรฐานและความปลอดภัย ซึ่งส่งผลต่อทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ บทความนี้ได้สรุป 5 ประเด็นหลักที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับกฎหมาย PDPA เพื่อให้คุณเข้าใจแก่นสำคัญและสามารถปรับตัวให้เท่าทันยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ

 

• PDPA คืออะไร

PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิในข้อมูลของเรา กำหนดให้องค์กรหรือธุรกิจต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลและนำไปใช้เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น

 

 

•  PDPA ส่งผลกระทบกับธุรกิจใดบ้าง 

ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ สายงานด้าน Digital Marketing เนื่องจากเป็นสายงานที่มีการทำ Personalized Ads เพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค ผ่านวิธีการต่าง ๆ ในการโฆษณาสินค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจอื่น ๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกฎหมาย PDPA ไปด้วยกัน
สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจในรายละเอียดเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวให้สอดรับกับกฎหมาย PDPA สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ เจาะลึกกฎหมาย PDPA ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้ ปรับตัวให้ทัน

 

 

• 4 ประเด็นหลัก สรุปกฎหมาย PDPA ที่ทุกคนควรรู้

เพื่อให้เห็นภาพรวมและเข้าใจถึงหัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เราได้ย่อยข้อมูลที่ซับซ้อนออกมาเป็น 5 ข้อที่เข้าใจง่ายและใกล้ตัวที่สุด

 

 

• 1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองมีอะไรบ้าง

กฎหมายนี้ให้ความคุ้มครองข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของเราได้ ตั้งแต่ข้อมูลทั่วไป เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล ไปจนถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เช่น ข้อมูลสุขภาพ, ความเชื่อทางศาสนา, ประวัติอาชญากรรม หรือข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือ, ใบหน้า) ซึ่งต้องได้รับการดูแลและขอความยินยอมที่เข้มงวดเป็นพิเศษ

• 2. “ความยินยอม” คือหัวใจสำคัญ

แก่นหลักของกฎหมาย PDPA คือ ความยินยอม (Consent) จากเจ้าของข้อมูล ก่อนที่องค์กรจะเก็บหรือนำข้อมูลไปใช้ จะต้องแจ้งวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน และขออนุญาตก่อนเสมอ โดยเจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะให้หรือไม่ให้ความยินยอมก็ได้ รวมถึงมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมนั้นเมื่อใดก็ได้

 

• 3. ใครบ้างที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA

กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมองค์กรและธุรกิจเกือบทุกประเภทในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ เช่น ร้านค้าออนไลน์ โรงพยาบาล ธนาคาร บริษัทประกันภัย ไปจนถึงฝ่ายบุคคลของบริษัทที่มีการเก็บข้อมูลพนักงาน

 

 

•  4. บทลงโทษหากมีการละเมิดข้อมูล

การไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย PDPA มีบทลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรง แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ โทษทางแพ่ง (ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามจริง) โทษทางอาญา (อาจมีโทษจำคุก) และโทษทางปกครอง (มีโทษปรับเป็นเงินจำนวนมาก) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องตระหนักและให้ความสำคัญ

กฎหมาย PDPA ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นกฎหมายพื้นฐานในยุคดิจิทัลที่ทุกคนควรทำความเข้าใจ การรู้ถึง 5 ประเด็นหลักนี้จะช่วยให้เราในฐานะเจ้าของข้อมูลสามารถรักษาสิทธิของตนเองได้ ในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจก็สามารถนำความเข้าใจนี้ไปปรับใช้ในการดำเนินงานให้ถูกต้อง โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

ที่มา : Plearn เพลิน By Krungsri GURU