ตัวจริงราชาคอเลสเตอรอล ไม่ใช่มันหมู กินบ่อยเสี่ยงสุขภาพพัง

“มันหมูไม่ใช่ตัวร้าย!” แต่คือส่วนนี้ต่างหากที่คอเลสเตอรอลพุ่งพรวด แถมเสี่ยงพยาธิ-สารพิษ แนะกินให้พอดี เลือกแหล่งสะอาด ปรุงให้สุกปลอดภัยกว่า
มันหมูไม่ใช่ “ราชาคอเลสเตอรอล” อย่างที่หลายคนเข้าใจ ตับหมูต่างหากที่พุ่งสูงเกือบ 4 เท่า!
หลายคนมักมองว่า “มันหมู” เป็นวายร้ายในโลกอาหาร เพราะเชื่อว่าเต็มไปด้วยไขมันและคอเลสเตอรอลสูงจนเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) กลับเผยความจริงที่น่าตกใจว่า “ตับหมู” ต่างหากที่มีคอเลสเตอรอลสูงกว่ามันหมูเกือบ 4 เท่า
จากข้อมูลระบุว่า มันหมู 100 กรัมมีคอเลสเตอรอล 97 มิลลิกรัม ขณะที่ ตับหมู 100 กรัมมีสูงถึง 355 มิลลิกรัม ซึ่งเกินคำแนะนำของสมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) ที่แนะนำให้คนทั่วไปควรบริโภคคอเลสเตอรอล ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน และสำหรับผู้ที่เสี่ยงโรคหัวใจ ควรจำกัดไว้ที่ ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน
ประโยชน์ของตับหมู
แม้จะมีคอเลสเตอรอลสูง แต่ตับหมูก็เป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ โดยอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง วิตามิน A, B12, B2, โฟเลต และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ธาตุเหล็กชนิด Heme Iron (ร่างกายดูดซึมได้ดี), สังกะสี และทองแดง
ความเสี่ยงจากการบริโภคตับหมูมากเกินไป
การกินตับหมูในปริมาณมาก อาจนำไปสู่การสะสมของวิตามินเอเกิน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งทำลายตับ กระดูก และเป็นอันตรายโดยเฉพาะต่อหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ตับยังทำหน้าที่กรองสารพิษในร่างกายสัตว์ จึงอาจมีการสะสมโลหะหนัก หรือเป็นแหล่งพยาธิและเชื้อโรคได้ หากหมูมีโรคตับอักเสบหรือมะเร็ง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือได้รับสารพิษปนเปื้อน
ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภค
- กินในปริมาณพอเหมาะ ไม่ถี่จนเกินไป
- เลือกซื้อจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย
- ปรุงให้สุกทั่วถึงทุกครั้งก่อนรับประทาน
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคตับหรือเครื่องในสัตว์