เตือน! กิน 3 อย่างนี้ช่วงอากาศร้อน เสี่ยงตับอักเสบเฉียบพลันถึงตายได้

ช่วงร้อนเสี่ยง “ตับอ่อนอักเสบ” คุกคามชีวิต แค่กิน 3 อย่างนี้ ก็อันตรายถึงตายได้!

ในช่วงหน้าร้อนนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า พฤติกรรมการกินอาหารบางอย่างอาจเสี่ยงนำไปสู่โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นภาวะอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบกินอาหารทอด ของเหลือค้างคืน และอาหารกระป๋อง

เว็บไซต์ข่าว SOHA รายงานกรณีตัวอย่างผู้ป่วยชายวัย 35 ปีที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานยุ่งและไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ เมื่อมีอาการปวดท้องรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พบว่าผู้ป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการบริโภคอาหารทอด อาหารค้างคืน และอาหารกระป๋องเป็นประจำ

ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตน้ำย่อยเพื่อช่วยย่อยอาหาร และผลิตฮอร์โมนอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากตับอ่อนถูกกระตุ้นมากเกินไป เช่น กินอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารที่เน่าเสีย อาจทำให้ตับอ่อนทำงานหนักจนเกิดการอักเสบเฉียบพลัน และถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจพัฒนาเป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง ซึ่งมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผู้เชี่ยวชาญยังชี้แจงว่า อาหาร 3 กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงร้อน ได้แก่

-  อาหารค้างคืน โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ที่มีสารไนเตรตสูง เมื่อเก็บข้ามคืนหรืออุ่นซ้ำ อาจกลายเป็นสารก่อมะเร็งและกระตุ้นให้ตับอ่อนอักเสบ

-  อาหารกระป๋อง ซึ่งมักมีสารกันบูด เกลือ และน้ำตาลในปริมาณสูง ทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักและเกิดการอักเสบ

-  อาหารทอด ที่มีไขมันอิ่มตัวและสารก่อมะเร็ง เช่น แอครีลามายด์ และแอฟลาทอกซิน ซึ่งส่งผลเสียต่อเซลล์ตับอ่อนในระยะยาว

แม้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอาหารเหล่านี้ช่วยคลายร้อนหรือสะดวกสำหรับชีวิตที่เร่งรีบ แต่จริง ๆ แล้วอาจเพิ่มภาระให้ตับอ่อนโดยไม่รู้ตัว หากมีอาการปวดท้อง ร่วมกับคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของตับอ่อนอักเสบ

เพื่อป้องกันโรคนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 4 วิธีง่าย ๆ ได้แก่ หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืน ของทอด และอาหารกระป๋อง เลือกทานอาหารสดใหม่อย่างผัก ผลไม้ และโปรตีนดี ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายเบา ๆ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน

ด้วยเหตุนี้ การเลือกอาหารที่ถูกต้องและสดใหม่ในช่วงร้อนจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปกป้องสุขภาพและลดความเสี่ยงโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจร้ายแรงได้