ทำความรู้จัก บุน รานี ภรรยาผู้ภักดีเคียงข้างกาย ฮุน เซน

มาทำความรู้จัก “บุน รานี” ภรรยาผู้ภักดีเคียงข้างกาย ฮุน เซน 

 

สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุนเซน คือสตรีผู้เปี่ยมด้วยอิทธิพลและบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของกัมพูชา เธอไม่ใช่เพียงแค่ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ในฐานะภริยาของ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอำนาจเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนงานด้านมนุษยธรรมในฐานะ ประธานกาชาดกัมพูชา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบัน

 

สมเด็จฯ บุน รานี ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2497 ในครอบครัวชาวนาเชื้อสายจีน ณ จังหวัดกำปงจาม เธอสมรสกับ จอมพลสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 และมีบุตรธิดารวม 5 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชา

 

ชีวิตของ สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุนเซน เริ่มต้นในครอบครัวเชื้อสายจีน-เขมร ที่เธอได้รับการหล่อหลอมด้วยขนบธรรมเนียมแบบเขมรจากปู่ย่าตายาย ตั้งแต่วัยเยาว์ เธอต้องเผชิญกับความยากลำบาก โดยการเดินลุยน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงทุกวันเพื่อไปโรงเรียน ก่อนที่สงครามกลางเมืองจะปะทุขึ้น

 

หลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2513 ที่นำไปสู่การถอดถอนสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เธอก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วม แนวร่วมประชาชาติของกัมพูชา และเลือกสายงานด้านสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือผู้คน

 

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ บุน รานี เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2517 เมื่อเธอได้พบกับ ฮุน เซน ผู้ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการคนสำคัญฝ่ายเขมรแดง ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในปี พ.ศ. 2519 ในพิธีแต่งงานหมู่ที่จัดขึ้นโดยพรรค อย่างไรก็ตาม ความสุขของชีวิตคู่เริ่มต้นได้ไม่นาน เมื่อลูกชายคนแรกของพวกเขาลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วันก็เสียชีวิตลง

 

หลังจากนั้นไม่นาน โชคชะตาก็พรากทั้งสองจากกันอีกครั้ง เมื่อ ฮุน เซน ต้องหลบหนีออกจากเขมรแดงไปร่วมกองกำลังต่อต้านในเวียดนาม ในขณะที่ บุน รานี กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง การพลัดพรากครั้งนี้เองที่เป็น จุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีรีส์กัมพูชาชื่อดัง "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ" (The Son Under the Full Moon) ซึ่งอิงจากชีวิตจริงของทั้งคู่ โดยมีฉากที่สะเทือนใจคือการที่ บุน รานี ต้องคลอดลูกชายคนที่สองในคืนวันเพ็ญโดยปราศจากสามีเคียงข้าง

 

บุน รานี เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของกัมพูชา ในช่วงที่ ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2528–2536, 2536–2566)

 

ในปี 2556 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี พระราชทานตำแหน่ง สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต หรือ สมเด็จกิตติวุฒิบัณฑิต (Samdech Kittipritbandit) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของสตรีในกัมพูชา สำหรับ ความพยายามอันไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในการปฏิบัติภารกิจเพื่อมนุษยธรรม

 

แม้โดยทางการควรเรียกว่า “สมเด็จ” แต่ในหมู่ประชาชนเธอยังเป็นที่รู้จักในชื่อ ล๊กจุมเตียวธม แปลว่า ท่านผู้หญิงใหญ่

 

ก่อนหน้านั้น เคยได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งจากสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 3 แห่ง ในสาธารณรัฐเกาหลี เมื่อปี 2552 และ 2553 ด้วย

 

บทบาทในการเมืองกัมพูชา

หลังสงครามสิ้นสุดลงในปี 2522 บุน รานีเริ่มมีบทบาทในการฟื้นฟูสังคม โดยเฉพาะการจัดตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โรงเรียน และโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้

 

ในปี 2537 เธอได้รับเลือกเป็นรองประธานกาชาดกัมพูชา และก้าวขึ้นเป็น ประธานกาชาดกัมพูชา ในปี 2541 ภายหลังสามีรวมอำนาจเต็ม รัฐบาลของฮุน เซนถูกมองว่าเป็นเผด็จการ แต่เธอยังคงดำรงบทบาทสำคัญในงานสังคม

 

ปัจจุบัน บุน รานี ดำรงตำแหน่ง ประธานที่ปรึกษานายกสภากาชาดกัมพูชา และทำงานใกล้ชิดกับลูกสะใภ้ เพชร จันมุนี ภริยาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต

 

สื่อกัมพูชาและต่างประเทศเคยรายงานว่า บุน รานี คือผู้สร้างบารมีให้กับสามี ผ่านการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และโครงการสาธารณะต่าง ๆ

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บุน รานี เป็นหนึ่งในผู้ถือครองธุรกิจสัมปทานขนาดใหญ่ของตระกูลฮุน และมีการถ่ายโอนธุรกิจในรูปแบบนอมินี มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทไปยังทายาททั้ง 5 คนของครอบครัว

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : sanook ,