กรมควบคุมโรค เผยสถิติคนเดินเท้าเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 506 ราย

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถิติผู้เสียชีวิตทางถนนที่เป็นคนเดินเท้า 10 ปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2558 - 2567 มีผู้เสียชีวิต 5,066 ราย เฉลี่ย 506 รายต่อปี และมีผู้บาดเจ็บพักรักษาในโรงพยาบาล 58,705 ราย เฉลี่ย 5,870 รายต่อปี เกิดความสูญเสียจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วในเขตชุมชน ขับรถด้วยความระวัง โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน หน้าโรงพยาบาล ซึ่งการชะลอความเร็วจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและหากเกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดความรุนแรงได้ขอความร่วมมือผู้ขับขี่ทุกท่านตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม หากเห็นป้ายหรือสัญญานเข้าเขตชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาลและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวว่า สภาพร่างกายของผู้ขับขี่มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ ปฏิกิริยาตอบสนองในการขับขี่ และควบคุมยานพาหนะ หากผู้ขับขี่รู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีอาการป่วย ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อตนเองและผู้อื่น หรือท่านมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาในการรักษาโรคที่ส่งผลต่อการขับขี่ ควรงดการขับขี่หรือจำกัดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสมรรถนะทางร่างกาย เช่น ไม่ขับรถไกล ไม่ขับรถกลางคืน หากผู้ขับขี่ไม่มั่นใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป

แพทย์หญิงศิริรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ ได้แนะนำเกี่ยวกับการข้ามถนนที่ปลอดภัย ประชาชนควรใช้ทางข้ามที่จัดไว้ให้ เช่น ทางม้าลาย หรือสะพานลอย และควรมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีรถในระยะกระชั้นชิดก่อนก้าวลงไปบนถนน เดินข้ามอย่างระมัดระวัง หากมีรถหยุดแล้ว เมื่อเดินข้ามต่อต้องมองว่าช่องเลนถัดไปไม่มีรถวิ่งแซงออกมา จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกเฉี่ยวชน การยกมือหรือชูสิ่งของ เช่น ธงหรือป้ายเพื่อเป็นสัญลักษณ์การข้ามถนน จะช่วยให้ผู้ขับขี่สังเกตเห็นได้ง่าย
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเห็นความสำคัญเรื่องการสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่เสี่ยงอันตรายต่อผู้อื่นและรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนน ทุกเพศ ทุกวัย มีระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข