สุดารัตน์ ฟาดแรง คลิปเสียงนายกฯ-ฮุนเซน ขอให้เคารพศักดิ์ศรีคนไทย

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความร้อนแรงผ่านเฟซบุ๊ก กรณีคลิปเสียงหลุดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับ สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยระบุว่า  "หลานกำลังจะถูกโจมตี ขอให้ลุงช่วยหน่อย" ไม่ใช่เสียงของผู้นำที่ปกป้องอธิปไตย แต่คือเสียงของคนที่ "ห่วงตัวเองมากกว่าประเทศ"

โดยในคลิปคุณหญิงสุดารัตน์ เผยว่า  ทุกท่านได้ฟังคลิปเสียงที่นายกรัฐมนตรีได้คุยเป็นการส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาแล้วหรือยังคะ ต้องบอกว่า การเป็นผู้นำของประเทศจะต้องยืนอยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง เริ่มต้นในการเจรจาก็ผิดแล้วค่ะ เริ่มต้นด้วยการเว้าวอนขอร้องให้อังเคิลช่วยหลานหน่อย หลานถูกโจมตีในประเทศจะแย่อยู่แล้ว ซึ่งมันเห็นเจตนาชัดเจนค่ะว่าไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ถ้ายกคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ จะต้องไม่เจรจาอย่างนี้ ถึงแม้จะเป็นการเจรจาส่วนตัว เรียกลุงเรียกหลานไม่ผิดค่ะ  

 แต่ต้องเจรจาว่าในฐานะลุงก็เป็นผู้นำของประเทศกัมพูชา หลานเป็นผู้นำของประเทศไทย ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เรามาพบเจอกันเพื่อที่จะหาทางออกจากปัญหานี้ให้วินวินทั้ง 2 ประเทศได้อย่างไร เพราะอย่างไรเสีย พรมแดนเราก็จะติดกันอยู่อย่างนี้ไปอีกชั่วกับชั่วกัน พี่น้อง 2 ฝั่งชายแดนก็เป็นพี่น้องกัน เราควรจะหาทางแก้ไขปัญหาร่วม ไม่ใช่นำปัญหาเข้าสู่ศาลโลก แล้วก็นัดเจรจาอย่างเปิดเผย



โดยความสัมพันธ์ส่วนตัวเนี่ยล่ะค่ะ เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเว้าวอนขอร้องให้เขาช่วย เพราะหลานถูกโจมตีอย่างยิ่งในประเทศ ขอให้ลุงช่วยหน่อย เริ่มต้นเจรจาแบบนี้เสียศักดิ์ศรีของการเป็นผู้นำไทยค่ะ มันต้องเริ่มต้นว่าในฐานะเป็นหลานก็ได้ แต่เป็นผู้นำของประเทศ ต้องการที่จะหาข้อยุติอย่างสงบ และเชื่อว่าการเจรจาทวิภาคีระหว่างเราทั้ง 2 จะสามารถหาข้อยุติเพื่อเป็นประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศได้ 

  แต่ต้องเจรจาว่าในฐานะลุงก็เป็นผู้นำของประเทศกัมพูชา หลานเป็นผู้นำของประเทศไทย ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เรามาพบเจอกันเพื่อที่จะหาทางออกจากปัญหานี้ให้วินวินทั้ง 2 ประเทศได้อย่างไร เพราะอย่างไรเสีย พรมแดนเราก็จะติดกันอยู่อย่างนี้ไปอีกชั่วกับชั่วกัน พี่น้อง 2 ฝั่งชายแดนก็เป็นพี่น้องกัน



เราควรจะหาทางแก้ไขปัญหาร่วม ไม่ใช่นำปัญหาเข้าสู่ศาลโลก แล้วก็นัดเจรจาอย่างเปิดเผย โดยความสัมพันธ์ส่วนตัวเนี่ยล่ะค่ะ เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเว้าวอนขอร้องให้เขาช่วย เพราะหลานถูกโจมตีอย่างยิ่งในประเทศ ขอให้ลุงช่วยหน่อย




เริ่มต้นเจรจาแบบนี้เสียศักดิ์ศรีของการเป็นผู้นำไทยค่ะ มันต้องเริ่มต้นว่าในฐานะเป็นหลานก็ได้ แต่เป็นผู้นำของประเทศ ต้องการที่จะหาข้อยุติอย่างสงบ และเชื่อว่าการเจรจาทวิภาคีระหว่างเราทั้ง 2 จะสามารถหาข้อยุติเพื่อเป็นประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศได้ 

เธอย้ำว่า การใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำต่างประเทศ ควรใช้เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม หาแนวทางออกจากปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกโจมตี