ญาติร้องสอบคลินิก ปฏิเสธรักษาคนไข้ สุดท้ายทรุดดับหน้าคลินิก

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 เวลา 17.30 น. ทางด้าน ร้อยตำรวจโท วีระเดช กาศสนุก รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าคลินิกเวชกรรม ภายในซอย ประชาอุทิศ 33 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณ หน้าคลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งในซอย ประชาอุทิศ 33 กรุงเทพมหานคร ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ด้านหน้าทางเข้าพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย สมชาย นิลอุบล อายุ 60 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้น ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีสม กางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า ถัดมาพบรถจักรยานยนต์ จอดนิ่งสนิทอยู่จากการตรวจสอบแล้วพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของลูกชายผู้เสียชีวิตขับขี่พาผู้เสียชีวิตซ้อนท้ายมา

และจากการสอบถาม นายอนุวัฒน์  นิลอุบล อายุ 24 ปี เป็นลูกชายผู้ตาย กล่าว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมันเริ่มจากพ่อของตนแน่นหน้าอก แล้วพ่อก็มาหาตนแล้วก็บอกว่าพ่อไม่ไหวแล้ว ตนก็เลยพาพ่อของตนขี่รถจักรยานยนต์มา เพื่อมาหาคลินิกที่ใกล้ที่สุดก็คือที่นี่ แล้วพอมาถึงตนก็พาพ่อของตนเข้าไปด้านในแล้วสักพักนึงพ่อของตนก็มีอาการเหมือนจะหนักขึ้นเหมือนเขาจะอ้วก เขาก็ออกมาตามตนที่รออยู่ด้านนอกเพื่อให้เข้าไปดูพ่อของตนด้านในแล้วเขาก็ให้เอาพ่อของตนออกมาด้านนอกเพราะเขากลัวว่าพ่อของตนจะไปตายอยู่ภายในร้านของเขาแล้วสุดท้ายพ่อของตนก็มาเสียชีวิตอยู่ด้านนอก แล้วตอนที่ตนกับพ่อมาถึงก็เห็นว่ามีเขาอยู่ด้านในร้านคนเดียวแล้วก็น่าจะมีแม่บ้านอีกคนนึง

ซึ่งตนคิดว่าแน่นอนเขาคนนี้ต้องเป็นหมอแน่ๆ เมื่อเจอกันแล้วเขาบอกว่าให้พาไปโรงพยาบาลเลยเดี๋ยวมาตายในร้าน ตนก็เลยติดใจคำว่า "เดี๋ยวมาตายในร้าน" แล้วเขาก็ฉีดยาให้พ่อของตน 1 เข็ม เป็นยาแก้อาเจียนไม่อย่างนั้นพ่อของตนคงไม่มานอนอยู่อย่างนี้หลอก สิ่งที่ตนติดใจก็คือคำว่า "เดี๋ยวมาตายในร้านเขา" แต่ถ้าเกิดอย่างน้อยเขาพยายามที่จะช่วยพ่อของตนแล้วพ่อของตนตายอยู่ในนั้นตนจะไม่ติดใจเลยนะ แต่เขาบอกว่า "เดี๋ยวมาตายในร้านเขาให้ไปตายด้านนอก" ตรงนี้แหละที่ตนติดใจเป็นหลักเลยนะ

แล้วพอพ่อของตนออกมาจากร้านเขาแล้วและมาทรุดลงตรงนี้เขาก็ไม่ออกมาดูเลย ตนต้องขอความช่วยเหลือเอง จนตนต้องบีบ ต้องกดดันให้เขาโทรศัพท์แจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เพราะตอนนั้นตนไม่มีโทรศัพท์ตอนนั้น คือเรื่องนี้ตนคิดว่ามันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณแพทย์ แล้วตนก็ติดใจในคำพูดของเขาตรงที่ว่า "เดี๋ยวมาตายในร้าน" แต่ถ้าอย่าน้อยเขาช่วยจริงๆจนสุดความสามารถของเขาแล้วและพ่อของตนต้องมาตายในร้านเขา ตนยังรู้สึกโอเคเพราะแบบว่าเขาก็ยังช่วยแบบสุดๆแล้ว แต่นี้เขาแบบว่าเลือกที่จะปัดทิ้งไปเลยตนก็เลยรู้สึกว่ามันไม่โอเค

พ่อของตนป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วตอนที่มามีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกแล้วก็มีอาการทรุดลงเรื่อยๆ ตนกับพ่อมาจากประชาอุทิศ 26 คลีนิคตรงนี้ใกล้บ้านของตนมากที่สุดแล้ว ตนพาพ่อขี่มอเตอร์ไซค์มา ตอนที่พ่อของตนซ้อนมาเขาก็ต้องเกาะตนไว้ตลอดเขาเหมือนจะวูปเขาเหมือนจะอวกตลอดทางเพราะเขาหายใจไม่ออกเขาไม่ไหวแล้ว ตนก็ต้องหาคลีนิคที่ใกล้ที่สุดก็คือที่นี่ ตอนแรกมาถึงเขาก็เหมือนกับจะช่วยแต่สุดท้ายก็เหมือนอย่างที่ตนเล่าให้ฟัง พอตนได้ยินคำว่าให้ออกไปรักษาข้างนอกเดี๋ยวมาตายในร้านเขา ตนก็รู้สึกว่ามันตันมากเลยนะมันหลายอย่างเลยตนก็ต้องขอความช่วยเหลือนู่นนี่นั่น แต่สุดท้ายก็ไม่ทันแล้ว

 

ส่วนสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น คลีนิคดังกล่าวเช่าเฉพาะด้านล่างของอาคาร ส่วนด้านบนอักสามชั้นเจ้าของอาคารแบ่งเป็นห้องให้เช่า โดยมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ก็ตือผู้เช้าห้องข้างบนต้องเดินเข้าไปด้านในคลีนิคดังกล่าวเพื่อที่จะขึ้นไปบนห้องพักของตนเองเท่านั้น ทางเข้าออกทางอื่นไม่มี

ซึ่งทางญาติอยากจะให้ทางแพทยสภาลงมาตรวจสอบคลีนิคดังกล่าวว่าเปิดคลีนิคแบบนี้มันถูกต้องตามหลังของแพทยสภาหรือไม่ ซึ่งตนมองแล้วว่ามันไม่ถูกสุขลักษณะและตามหลักอนามัย แพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชและจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป