ข่าว

heading-ข่าว

ระวัง 15 สิ่งใกล้ตัวที่คุณทำทุกวัน อาจเป็นสาเหตุ "มะเร็ง" โดยไม่รู้ตัว

10 มิ.ย. 2568 | 16:29 น.
ระวัง 15 สิ่งใกล้ตัวที่คุณทำทุกวัน อาจเป็นสาเหตุ "มะเร็ง" โดยไม่รู้ตัว

หลายคนยังไม่รู้ ระวัง 15 สิ่งใกล้ตัว อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ให้กับตัวคุณแบบที่ไม่รู้ตัว วันนี้เรามีข้อมูลจากคุณหมอมาเล่าสู่กันฟังค่ะ เพื่อเตรียมรับมือ รับรู้ และหลี่กเลี่ยง ดังนี้

หลายคนยังไม่รู้ ระวัง “15 สิ่งใกล้ตัว” อาจเป็น ปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง ให้กับตัวคุณแบบที่ไม่รู้ตัว วันนี้เรามีข้อมูลจากคุณหมอมาเล่าสู่กันฟังค่ะ เพื่อเตรียมรับมือ รับรู้ และหลี่กเลี่ยง มะเร็งยังคงเป็นภัยเงียบคร่าชีวิตคนไทยอันดับต้น ๆ หลายคนเข้าใจว่ามะเร็งเกิดจากพันธุกรรม หรือโชคร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว กว่า 90% ของโรคมะเร็งเกิดจากปัจจัยที่เราสามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงได้

ระวัง 15 สิ่งใกล้ตัวที่คุณทำทุกวัน อาจเป็นสาเหตุ "มะเร็ง" โดยไม่รู้ตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ หมอโอ๊ค ได้สรุป 15 ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย อ้างอิงจาก IARC (International Agency for Research on Cancer) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยมะเร็งระดับโลก มาให้ทุกคนได้อ่านและทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพื่อที่คุณจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างถูกจุด

 

1. บุหรี่ / ควัน / ยากันยุง / ฝุ่น

  • บุหรี่: ไม่ว่าจะเป็นคนสูบเอง หรือคนรอบข้างที่สูดควันบุหรี่มือสอง ก็เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดและอีกหลายอวัยวะ
  • ควัน: ควันจากการเผาไหม้ต่าง ๆ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากการเผาขยะ หรือแม้แต่ควันในครัว ล้วนมีสารก่อมะเร็ง
  • ยากันยุง: การสูดดมควันยากันยุงเป็นประจำ อาจนำพาสารเคมีเข้าสู่ร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงได้
  • ฝุ่น PM2.5: อนุภาคฝุ่นขนาดเล็กนี้สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดอย่างมีนัยสำคัญ
  • การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันทุกชนิด สวมหน้ากากอนามัยเมื่อค่าฝุ่นสูง

 

 

2. อ้วนลงพุง / BMI สูง / ไขมันตับ

  • อ้วนลงพุง: ไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องไม่ได้เป็นแค่เรื่องของรูปร่าง แต่ยังเป็นสัญญาณของภาวะอักเสบเรื้อรังที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด
  • BMI สูง: ดัชนีมวลกายที่เกินเกณฑ์ปกติ (ภาวะอ้วน) ทำให้เซลล์ในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงและเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
  • ไขมันตับ: ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ตับอักเสบ ตับแข็ง และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ
  • ฮอร์โมน: เซลล์ไขมันที่มากเกินไปสามารถผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
  • การป้องกัน: ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดไขมันหน้าท้อง และดูแลสุขภาพตับ

ระวัง 15 สิ่งใกล้ตัวที่คุณทำทุกวัน อาจเป็นสาเหตุ "มะเร็ง" โดยไม่รู้ตัว

3. เนื้อแปรรูป / PAHs / ไนไตรท์

  • เนื้อแปรรูป: เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน กุนเชียง ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 (Group 1 Carcinogen) โดย IARC
  • PAHs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons): สารนี้เกิดจากการปิ้งย่างเนื้อสัตว์ด้วยความร้อนสูง หรือการรมควัน
  • ไนไตรท์/ไนเตรท: สารกันเสียที่พบในเนื้อแปรรูป เมื่อทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกายจะกลายเป็นไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
  • การปรุงแต่ง: กระบวนการแปรรูปมักใช้สารเคมีและเกลือในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพลำไส้และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • การป้องกัน: ลดการบริโภคเนื้อแปรรูป หันมาเลือกเนื้อสด หรือปรุงอาหารด้วยวิธีต้ม นึ่ง อบ

 

 

4. ขาดการออกกำลังกาย

  • ภาวะอ้วน: การไม่ออกกำลังกายนำไปสู่ภาวะอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็งโดยตรง
  • ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ: การเคลื่อนไหวของร่างกายช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น การขาดการออกกำลังกายจึงทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • การอักเสบเรื้อรัง: การเคลื่อนไหวช่วยลดภาวะอักเสบในร่างกาย หากขาดการออกกำลังกาย ร่างกายจะอยู่ในภาวะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของเซลล์มะเร็ง
  • อินซูลินสูง: การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น หากขาดการออกกำลังกาย อินซูลินอาจสูงขึ้นและกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • การป้องกัน: ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (ความเข้มข้นปานกลาง) หรือ 75 นาทีต่อสัปดาห์ (ความเข้มข้นสูง)

 

 

5. แอลกอฮอล์

  • อะซีตัลดีไฮด์: เมื่อร่างกายย่อยสลายแอลกอฮอล์ จะเกิดสารอะซีตัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งโดยตรง
  • ฮอร์โมน: แอลกอฮอล์สามารถส่งผลกระทบต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
  • ระบบภูมิคุ้มกัน: การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะไปกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ยากขึ้น
  • สารอาหารลดลง: แอลกอฮอล์ขัดขวางการดูดซึมสารอาหารสำคัญ เช่น โฟเลต วิตามินบี ที่จำเป็นต่อการป้องกันมะเร็ง
  • การป้องกัน: ลดหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะตามคำแนะนำของแพทย์

 

 

6. วิตามินดี3 ต่ำ

  • ภูมิคุ้มกัน: วิตามินดี3 มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
  • การแบ่งเซลล์: วิตามินดี3 ช่วยควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ให้เป็นปกติ หากขาดจะเพิ่มความเสี่ยงในการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติ
  • การอักเสบ: วิตามินดี3 มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ การขาดวิตามินดี3 จึงทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะอักเสบเรื้อรัง
  • ยีน: วิตามินดี3 สามารถควบคุมการทำงานของยีนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดและการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  • การป้องกัน: ตากแดดอ่อน ๆ ช่วงเช้าหรือเย็นเป็นประจำ (15-20 นาที) หรือรับประทานอาหารเสริมวิตามินดี3 ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

 

 

7. ขาดโอเมก้า 3

  • การอักเสบ: โอเมก้า 3 (โดยเฉพาะ EPA และ DHA) มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่รุนแรง การขาดโอเมก้า 3 จึงทำให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย
  • การเติบโตของเซลล์มะเร็ง: โอเมก้า 3 มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
  • การสร้างหลอดเลือด: โอเมก้า 3 สามารถยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งขาดสารอาหารและเติบโตได้ยากขึ้น
  • ภูมิคุ้มกัน: โอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมและเซลล์ผิดปกติ
  • การป้องกัน: บริโภคปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน หรืออาหารเสริมโอเมก้า 3 ที่มีคุณภาพ

 

 

8. ไฟเบอร์ต่ำ / ลำไส้พัง / Microbiome

  • ไฟเบอร์ต่ำ: การบริโภคไฟเบอร์น้อย ทำให้การขับถ่ายไม่ดี สารพิษตกค้างในลำไส้นานขึ้น เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ลำไส้พัง (Leaky Gut): ภาวะที่ผนังลำไส้เสียหาย ทำให้สารพิษและเชื้อโรคซึมเข้าสู่กระแสเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย
  • Microbiome ไม่สมดุล: แบคทีเรียในลำไส้ที่ไม่ดีมีจำนวนมากเกินไป ทำให้เกิดสารพิษและภาวะอักเสบเรื้อรังในลำไส้
  • สารอาหารลดลง: เมื่อลำไส้ไม่แข็งแรง การดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการป้องกันมะเร็งก็จะลดลง
  • การป้องกัน: บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และดูแลสุขภาพลำไส้ด้วยโปรไบโอติก/พรีไบโอติก

 

 

9. เครียดเรื้อรัง

  • ฮอร์โมนความเครียด: เมื่อเครียดเรื้อรัง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ซึ่งไปกดภูมิคุ้มกันและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • ระบบภูมิคุ้มกัน: ความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ร่างกายไม่สามารถตรวจจับและกำจัดเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นได้
  • การอักเสบ: ความเครียดเรื้อรังนำไปสู่ภาวะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็ง
  • พฤติกรรมเสี่ยง: คนที่เครียดอาจหันไปพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือกินอาหารไม่มีประโยชน์
  • การป้องกัน: จัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิ โยคะ ออกกำลังกาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

 

 

10. นอนน้อย / นอนไม่ลึก

  • เมลาโทนินต่ำ: การนอนน้อยหรือนอนไม่ลึก ทำให้การผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินลดลง ซึ่งเมลาโทนินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็ง
  • ภูมิคุ้มกัน: การนอนหลับที่ดีช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงพร้อมต่อสู้กับโรค
  • การซ่อมแซมเซลล์: ในระหว่างการนอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย หากนอนไม่พอ การซ่อมแซมจะไม่สมบูรณ์
  • การอักเสบ: การนอนไม่พอเรื้อรังทำให้เกิดภาวะอักเสบในร่างกายเพิ่มขึ้น
  • การป้องกัน: นอนหลับให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอน

 

 

11. ติดหวาน / อินซูลินสูง

  • น้ำตาลเป็นอาหารเซลล์มะเร็ง: เซลล์มะเร็งชอบน้ำตาล และใช้น้ำตาลเป็นพลังงานในการเจริญเติบโตและแพร่กระจาย
  • อินซูลินสูง: การบริโภคน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตแปรรูปมากเกินไป ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินสูง ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมการเติบโตของเซลล์
  • IGF-1 (Insulin-like Growth Factor-1): อินซูลินที่สูงจะกระตุ้นการผลิต IGF-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • การอักเสบ: การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปทำให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย
  • การป้องกัน: ลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป หันมาบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและโปรตีนที่ดี

 

 

12. ปิ้งย่าง / น้ำมันเก่า / ของทอด

  • สารก่อมะเร็งจากการปิ้งย่าง: การปิ้งย่างเนื้อสัตว์ด้วยความร้อนสูง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งกลุ่ม PAHs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) และ HCA (Heterocyclic Amines)
  • น้ำมันเก่า/ใช้ซ้ำ: การใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้ง ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและสารก่อมะเร็งจำนวนมาก
  • ไขมันทรานส์: ของทอดบางชนิดอาจมีไขมันทรานส์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงการอักเสบและโรคเรื้อรัง
  • ความร้อนสูง: การปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงมากเกินไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอาหารและสารอาหาร
  • การป้องกัน: ลดการบริโภคอาหารปิ้งย่าง ของทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ เลือกวิธีปรุงอาหารแบบ ต้ม นึ่ง อบ แทน

 

 

13. Aflatoxin จากถั่วลิสง

  • อะฟลาทอกซิน: เป็นสารพิษที่ผลิตโดยเชื้อรา (Aspergillus flavus และ Aspergillus parasiticus) มักปนเปื้อนในธัญพืช ถั่วลิสง และข้าวโพด ที่เก็บไม่ดี
  • สารก่อมะเร็งตับ: อะฟลาทอกซินเป็นสารก่อมะเร็งที่มีฤทธิ์รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตับ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับในบางภูมิภาค
  • การปนเปื้อน: อาจพบการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วลิสง เช่น เนยถั่ว หรือในพริกแห้งบางชนิด
  • การระบุ: สังเกตลักษณะของถั่วที่ผิดปกติ เช่น มีราขึ้น เปลี่ยนสี หรือมีกลิ่นอับ
  • การป้องกัน: เลือกซื้อถั่วลิสงและธัญพืชจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก และไม่เก็บไว้นานเกินไป

 

 

14. พยาธิในปลาดิบ

  • พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini): พบมากในปลาดิบน้ำจืด เช่น ปลาตะเพียน ปลาสร้อย ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
  • มะเร็งท่อน้ำดี: พยาธิใบไม้ตับเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
  • การอักเสบเรื้อรัง: การติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในท่อน้ำดี ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็ง
  • การระบุ: การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ
  • การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการบริโภคปลาดิบน้ำจืด หรือปลาที่ปรุงไม่สุก ควรกินปลาที่ผ่านการปรุงสุกด้วยความร้อนสูงเท่านั้น

 

 

15. ขาดผัก ผลไม้ ถั่วอ่อน

  • ไฟเบอร์: ผัก ผลไม้ และถั่วอ่อน อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการขับถ่าย สารพิษ และรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: พืชเหล่านี้มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารไฟโตนิวเทรียนท์จำนวนมาก ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
  • ภูมิคุ้มกัน: การได้รับสารอาหารจากผัก ผลไม้ และถั่วอ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  • ลดภาวะอ้วน: การบริโภคผัก ผลไม้ ช่วยให้อิ่มนาน ลดการกินจุบจิบ และควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
  • การป้องกัน: บริโภคผักและผลไม้หลากสีสันให้ได้วันละ 5-9 ส่วน ห้ามขาด และเลือกถั่วอ่อน เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง มาเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหาร

 

 

จะเห็นได้ว่าปัจจัยเสี่ยงมะเร็งส่วนใหญ่ล้วนมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการบริโภคอาหารของเราเอง การมีความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่ารอช้า เริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและปราศจากมะเร็งค่ะ ขอบคุณ : ข้อมูลจากหมอโอ๊ค DoctorSixpack

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เปิด 5 จังหวัดในประเทศไทย ที่มีผู้สูงอายุน้อยที่สุดในประเทศ

เปิด 5 จังหวัดในประเทศไทย ที่มีผู้สูงอายุน้อยที่สุดในประเทศ

ฟังโค้ชอ๊อต พูดกับสาวไทย หลังพลาดทำแต้มเสียเองให้ บัลแกเรียฟรีๆ

ฟังโค้ชอ๊อต พูดกับสาวไทย หลังพลาดทำแต้มเสียเองให้ บัลแกเรียฟรีๆ

"ชิงชิง คริษฐา" ป่วยปอดรั่วต้องแอดมิท CCU ผลผ่าตัดเรียบร้อยดี

"ชิงชิง คริษฐา" ป่วยปอดรั่วต้องแอดมิท CCU ผลผ่าตัดเรียบร้อยดี

เผย 10 สินค้าส่งออกของไทยไป "กัมพูชา" มีสินค้าอะไรบ้าง

เผย 10 สินค้าส่งออกของไทยไป "กัมพูชา" มีสินค้าอะไรบ้าง

เชน ธนา สู้ชีวิต ล่าสุดสวมมงฟ้า Miss World ไลฟ์ขายของปลดหนี้

เชน ธนา สู้ชีวิต ล่าสุดสวมมงฟ้า Miss World ไลฟ์ขายของปลดหนี้