เจ้าของ เฉลยแล้ว สาเหตุเงิน 12 ล้าน โผล่ข้างกองขยะคอนโดดัง

คืบหน้าคดีเงินสด 12 ล้านบาท ล่าสุดเจ้าของเงินยันบริสุทธิ์ แจงละเอียดที่มาทั้งหมด เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด และ พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด ได้เชิญตัว นายทวีวัฒน์ เจ้าของเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ปากเกร็ด โดยใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง


 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบธนบัตรจำนวน 12 ล้านบาทดังกล่าว และยึดไว้เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป โดยจะมีการประสานกับทางธนาคารเพื่อตรวจสอบการเบิกถอนเงินตามข้อมูลที่นายทวีวัฒน์ให้ไว้

จากการสอบถาม นายทวีวัฒน์ ให้การว่า สาเหตุที่นำกล่องไปทิ้ง เนื่องจากภายในห้องของตนมีน้ำรั่วจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้สิ่งของหลายอย่างได้รับความเสียหาย รวมถึงลังที่เก็บเสื้อผ้า เงินสด และไวน์ไว้ด้วย โดยตั้งใจจะซ่อมลังไวน์ในวันอาทิตย์ แต่เกิดน้ำท่วมก่อน 

  ซึ่งตนเก็บเงินตั้งแต่ปี 63 เพราะเป็นทนายเก่า ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษา กสทช. เป็นมาตั้งแต่ปี 65 ตนรวมของไว้มีเสื้อผ้าเงินและลังไวน์ และตนจะซ่อมลังไวน์ นัดช่างไว้วันอาทิตย์ แต่โดนน้ำก่อน ส่วนเรื่องที่ตนนำกล่องไปทิ้งไว้ บริเวณนั้นเพราะว่าลิฟจะมีเลขคู่และเลขคี่ แต่ห้องตนล้ำไปที่เลขคู่ ตนจึงต้องไปทิ้งจุดนั้นเพราะใกล้ห้อง ซึ่งตนแจ้งนิติไปวันที่ 4 มิ.ย. 68 ว่ามีน้ำรั่ว   น้ำรั่วออกไปข้างนอกด้วย ทำให้ของตนเสียหายหลายอย่าง

 ปกติแล้วตนจะไม่ค่อยได้อยู่ห้องนี้ ตนไปๆมาๆทุกอาทิตย์ มาซื้อห้องอยู่ตั้งแต่ปี 38 หลังจากนั้นตนให้เพื่อนพาครบครัวมาอยู่แทน ตนไม่ได้อยู่ห้อง ประมาณ 2 ปีแล้ว ตนจึงเก็บของใส่ลังไว้ ที่ต้องเก็บเงินสดไว้เพราะว่าทีแรกจะเล่นการเมืองแต่ตนก็มีเงินในบัญชี 10 ล้าน

ซึ่งกล่องเป็นของตนแต่ตนเก็บของเอาไว้ในลังนั้นทั้งหมดจะเป็นของตนแค่ใบเดียวเพราะให้เพื่อนมาอยู่ เงินเก็บมาเรื่อยๆ ตนดูข่าวดีใจที่เจอเงิน 12 ล้าน ไม่กลัวเรื่องเส้นทางการเงิน เพราะเบิกจากธนาคารเอง ทยอยเบิกมาเรื่อยๆ และเบิกก้อนใหญ่สุดคือปี 63 ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา ตนไม่ได้เปิดลังดู ที่เอาเงินใส่ลังไว้เพราะตนใช้ตู้เซฟใส่เอกสารไว้หมดแล้ว กลัวโจรจะมายกตู้เซฟไป จึงใส่ในลังที่ไม่มีใครสังเกตเพราะคอนโดในเมืองทองอันตราย ตนได้ทำประตูไว้ 3 ชั้น ส่วนเอกสารเรื่องภาษีในกล่องเพราะตนเป็น อนุกสทช. มีการหักเรื่องเบี้ยประกัน ที่มีชื่อ-นามสกุล ตนไม่ได้ทำเรื่องไม่ดี ยืนยันว่าเป็นเงินตัวเองล้านเปอร์เซ็น

“ผมดีใจมากที่เจอเงิน และยืนยันว่าเงินทั้งหมดนี้เป็นของผมเองล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ทั้งเอกสารภาษี เบี้ยประกัน หรือชื่อ-นามสกุลในกล่องก็เป็นของผมทั้งหมด ผมเสียใจที่มีบางสื่อพาดหัวทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าเงินไม่บริสุทธิ์ ทั้งที่ผมมีหลักฐานครบถ้วน” นายทวีวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใสในเรื่องนี้ต่อไป