เด็กเล็กเสี่ยงโรคปอดบวมสูง พ่อแม่ต้องระวังสัญญาณเตือน!

เด็กเล็กเสี่ยงโรคปอดบวมสูง อาการไข้สูง หายใจลำบาก ต้องรีบพบแพทย์ทันที วัคซีนและการดูแลสุขภาพช่วยป้องกันได้
ปอดบวมในเด็กเล็ก : โรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวังอย่างจริงจัง
1. ปอดบวมคืออะไร?
ปอดบวม (Pneumonia) คือภาวะการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อปอด ทำให้เกิดการอักเสบและเต็มไปด้วยน้ำหรือหนอง
ทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ เด็กจะมีอาการหายใจลำบากและได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. สาเหตุของปอดบวมในเด็กเล็ก
เชื้อแบคทีเรีย เช่น Streptococcus pneumoniae เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
เชื้อไวรัส เช่น ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus), ไข้หวัดใหญ่
เชื้อรา หรือเชื้ออื่นๆ พบได้ในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่อ่อนแอ เช่น เด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีโรคเรื้อรัง
3. อาการสำคัญที่พ่อแม่ควรสังเกต
ไข้สูง อาจสูงมากและไม่ลดลงง่าย
ไอเรื้อรัง อาจเป็นไอแห้งหรือไอมีเสมหะ
หายใจเร็ว มากกว่าปกติสำหรับช่วงวัย เช่น เด็กทารกหายใจเกิน 60 ครั้งต่อนาที
หายใจลำบาก หอบเหนื่อย มีเสียงครืดคราดในปอด
ริมฝีปากและเล็บเขียวคล้ำ (ไซยาโนซิส) แสดงว่าขาดออกซิเจน
เบื่ออาหาร ซึม เหนื่อยง่าย หรือไม่ตอบสนองเหมือนปกติ
4. การวินิจฉัย
แพทย์จะตรวจร่างกายโดยฟังเสียงปอดและวัดอัตราการหายใจ รวมถึงอาจใช้การเอกซเรย์ปอดและตรวจเลือด เพื่อยืนยันการติดเชื้อและชนิดของเชื้อ
5. การรักษา
รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ สำหรับเชื้อแบคทีเรีย (ตามคำแนะนำของแพทย์)
ยาต้านไวรัสหรือยาตามอาการ สำหรับไวรัส
ให้ออกซิเจน ในกรณีเด็กมีภาวะขาดออกซิเจน
การดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้น้ำและอาหารทางหลอดเลือดในเด็กที่รับประทานอาหารได้น้อย
6. ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ภาวะขาดออกซิเจนขั้นรุนแรง
ฝีในปอด (lung abscess)
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (pleuritis)
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (sepsis)
การเสียชีวิต โดยเฉพาะในเด็กที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
7. การป้องกันปอดบวมในเด็กเล็ก
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมและไข้หวัดใหญ่ เช่น วัคซีน PCV (Pneumococcal conjugate vaccine)
ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง ให้อาหารครบถ้วน และพักผ่อนเพียงพอ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และรักษาความสะอาด
ไม่สูบบุหรี่ใกล้เด็ก เพราะควันบุหรี่ทำให้ปอดเด็กอ่อนแอ
รักษาความสะอาดของบ้านและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดฝุ่นและเชื้อโรค
8. เมื่อไหร่ควรพาเด็กไปพบแพทย์ด่วน?
หากเด็กมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานกว่า 2 วัน
เด็กหายใจเร็วหรือหายใจลำบากจนเห็นซี่โครงบุ๋มตอนหายใจ
ริมฝีปากหรือเล็บเริ่มมีสีม่วงหรือเขียวคล้ำ
เด็กซึม ไม่ตอบสนอง หรือกินน้ำและอาหารได้น้อยลงมาก
อาการไอหนักขึ้นหรือมีเสมหะมากผิดปกติ
สรุป: ปอดบวมในเด็กเล็กเป็นโรครุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว การป้องกันด้วยวัคซีนและดูแลสุขภาพอย่างดี จะช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องชีวิตของเด็กได้อย่างมาก