รายชื่อ 3 ศพ เหยื่อนายบาส หลานคลั่งวัย 33 ปี ยิงญาติตัวเองเสียชีวิต

ช่วงเช้าวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุยิงกราดภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านดอน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอู่ทอง นำโดย พ.ต.ต.มณีนันทิยา เกตุแก้ว สารวัตรสอบสวน และ พ.ต.อ.ธารา ศรีพรหมคำ ผู้กำกับการ สภ.อู่ทอง ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและควบคุมสถานการณ์โดยเร่งด่วน

 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายไพบูลย์ หรือ “บาส” อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และมีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยใช้ปืนยิงกราดใส่คนภายในบ้านอย่างไม่เลือกหน้า ก่อนหลบหนีไปพร้อมอาวุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งปิดล้อมพื้นที่เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อม และติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุโดยเร็ว

 

รายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย

• นางรำเพย อายุ 67 ปี
• นายสมภาษณ์ อายุ 51 ปี
• นางชะตารัตน์ อายุ 51 ปี

ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นางชุติมล อายุ 67 ปี ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเป็นการด่วน โดยทั้งหมดมีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกัน

 

 

ด้านชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุให้การว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นราว 6-7 นัดในช่วงเช้า ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเสียงพลุ หรือการเฉลิมฉลอง แต่เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมพื้นที่ จึงทราบว่าเกิดเหตุร้ายแรง และต่างพากันหลบออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย

 

สำหรับมูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ มีญาติของนายบาสให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมานายบาสมีความขัดแย้งสะสมกับญาติเรื่องที่ดินเป็นเวลานานหลายปี โดยเฉพาะปัญหาการใช้พื้นที่ร่วมกัน และกรณีล่าสุดที่นายบาสต้องการสร้างโรงรถเพื่อจอดรถจักรยานยนต์ช่วงหน้าฝน แต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขวาง ทำให้เกิดความเครียดสะสม มีการทะเลาะกันเป็นระยะ จนสุดท้ายอาจเกิดความกดดันถึงขีดสุดจนตัดสินใจก่อเหตุรุนแรง

 

ญาติผู้ก่อเหตุยังเล่าว่า หลังเกิดเหตุ นายบาสเคยมีท่าทีเหมือนจะยอมมอบตัว โดยยืนรออยู่หน้าบ้าน แต่ตนเองกลับบอกให้เขาหลบไปก่อน เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายจากอีกฝ่าย “หลานอาจรู้สึกโดนข่มเหงถึงขีดสุด เลยตัดสินใจก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา” ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อผู้ก่อเหตุได้ เพราะเขาไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย

 

สำหรับที่ดินที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง มีชื่อเจ้าของร่วมหลายคนในโฉนด ซึ่งเป็นพี่น้องกันรวม 5-6 คน และยังไม่ได้มีการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์อย่างชัดเจน

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างกระจายกำลังค้นหาและปิดล้อมบริเวณใกล้เคียงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีออกนอกพื้นที่ เนื่องจากยังถืออาวุธปืนติดตัวอยู่ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แต่อย่างใด