"เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ปรับเงื่อนไขใหม่ เหลือ 5 แสนสิทธิ

"เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ปรับเงื่อนไขใหม่ เหลือ 5 แสนสิทธิ ใช้ได้สูงสุด 5 สิทธิต่อคน เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงโลว์ซีซัน
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอแผนโครงการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงโลว์ซีซัน
ล่าสุด มีการปรับรายละเอียดข้อเสนอและเงื่อนไขการใช้สิทธิของโครงการ โดยลดจำนวนสิทธิทั้งหมดเหลือ 500,000 สิทธิ จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,000,000 สิทธิ เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ดำเนินโครงการอยู่ที่ 1,780 ล้านบาท ซึ่งถูกเกลี่ยไปใช้กับโครงการกระตุ้นตลาดต่างประเทศ ผ่านการสนับสนุนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) และการสนับสนุนเที่ยวบินจากประเทศจีน ทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
เงื่อนไขใหม่ของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” มีดังนี้:
1. จำนวนสิทธิที่ใช้ได้ต่อคน:
. จำกัดการใช้สิทธิสูงสุด 5 สิทธิ (หรือคืน) ต่อคน
. รัฐบาลช่วยจ่ายค่าโรงแรมที่พักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน
. มีคูปองดิจิทัลใช้จ่ายในร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าโอท็อป และแหล่งท่องเที่ยว โดยมูลค่าของคูปองยังต้องรอสรุปความชัดเจนอีกครั้ง
2. การใช้สิทธิในเมืองหลักและเมืองรอง:
. สามารถใช้สิทธิในเมืองหลักได้จำนวน 3 สิทธิ
. สามารถใช้สิทธิในเมืองรองได้จำนวน 2 สิทธิ
3. การใช้สิทธิในวันธรรมดาและวันหยุด:
. หากใช้สิทธิในวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) รัฐบาลช่วยจ่าย 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
. หากใช้สิทธิในวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์) รัฐบาลช่วยจ่าย 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” นี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงโลว์ซีซัน โดยเฉพาะในเมืองรอง และส่งเสริมการเดินทางในวันธรรมดา เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว