รวบแล้ว "บังมาน ปืนคู่" หลอนยาขู่ทำร้ายคนรอบตัว ทำกลัวทั้งชุมชน

สืบนครบาล 3 รวบตัวแล้ว "บังมาน ปืนคู่" หลอนยาขู่ทำร้ายคนรอบตัว ทำกลัวทั้งชุมชน ชาวบ้านพากันนอนตาหลับได้แล้ว
วันที่ 23 พ.ค. 68 ทางด้าน พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. ดูแลงานยาเสพติด พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที รอง ผบก.น.3 ดูแลงานสืบสวน พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.สุริยา กุญแจกล,พ.ต.ท.ศิรศักดิ์ ธนาวิทย์โยธิน สว.กก.สส.บก.น.3 ร.ต.อ.รักพงษ์ รักษาคุณ ร.ต.ต.เอกณัฏฐ์ นิติธรรมกุล รอง สว.กก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล 3 ร่วมกันจับกุมนายวันชัย วงศ์อารี หรือ บังมาน ปืนคู่ อายุ 47 ปี พร้อมของกลาง
- อาวุธปืนพก ชนิดรีวอลเวอร์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
- ชนิดออโตเมติก ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
- กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 47 นัด
- กระสุนปืนขนาด ขนาด 9 มม. จำนวน 30 นัด รวมทั้งสิ้น 77 นัด
- อุปกรณ์เสพยาเสพติด
จับได้ที่บ้านในเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากชุดสืบสวนนครบาล 3 ได้รับแจ้งจากชาวชุมชนมัสยิดอัตตั๊กวา - คลองสองต้นนุ่น ซ.ร่มเกล้า 6 ว่า "บังมาน" มีพฤติการณ์ เสพ-ค้ายา , รับซื้อ-ขาย อะไหล่รถโจร โดยจะเปิดที่พักที่อยู่ในชุมชนรับจ้าง แต่งรถจักรยานยนต์ซิ่งท่อดังให้กับวัยรุ่นในย่านดังกล่าว โดยจะเปิดทำการในยามค่ำคืนแล้วมั่วสุมเสพยากัน มักจะซื้อ - ขายอะไหล่รถต้นทุนต่ำที่พวกวัยรุ่นโจรกรรมมาขายให้ และส่งเสียงดัง เป็นที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ เมื่อมีคนไปบอกกล่าวให้ลดเสียงให้เบาลง บังมาน จะเอาอาวุธปืนออกมาข่มขู่ ซึ่งจะพกปืนทีละ 2 กระบอก จึงมีฉายา "บังมาน ปืนคู่" อีกทั้งช่วงที่เสพยา จะเอาอาวุธปืนออกมายิงที่หน้าบ้านประกาศศักดาเป็นประจำไม่มีคนกล้าตอแย
ต่อมาเมื่อ 22 พ.ค. 2568 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนนครบาล 3 จึงนำกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบ พบนายวันชัยหรือ บังมาน กับลูกน้องกำลังซ่อมรถทดลองรถ เบิ้ลเครื่องส่งเสียงดังด้วยความเมามัน อยู่ในบ้านเลขที่ 42 ซอยร่มเกล้า 6 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพ ฯ ทำการตรวจสอบพบ รถ จยย. ที่กำลังแต่ซิ่งดัดแปลงสภาพอยู่ภายในบริเวณข้างบ้านพัก พบ รถ จยย. ไม่มีเอกสารประจำรถมาแสดงให้กับเจ้าพนักงานตรวจสอบ จำนวน 8 คัน และเครื่องมือ – อุปกรณ์ ซ่อมรถ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่
จากนั้นได้พาไปตรวจยึดอาวุธปืนภายในห้องพักหลังบ้าน พบอาวุธปืนพก ชนิดรีวอลเวอร์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ ชนิดออโตเมติก ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 47 นัด กระสุนปืนขนาด ขนาด 9 มม. จำนวน 30 นัด รวมทั้งสิ้น 77 นัด และอุปกรณ์เสพยา ทั้งยาบ้ายาไอซ์ วางอยู่เกลื่อนกลาด พบถ้วย โถ ชาม ชุดลายเบญจรงค์ เป็นของใหม่สภาพดี อีกกว่า 50 รายการ ซึ่งรับว่าเป็นของลูกน้องที่เอามาแลกยา ซึ่งเชื่อว่าเป็นของที่ถูกลักมา จึงได้ตรวจยึดไว้ เพื่อหาผู้เสียหายต่อไป
จากการสอบถามนายพีระศักดิ์ และ ภรรยา ซึ่งเป็นพี่ชาย "บังมาน" ได้เปิดประตูออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า "บังมาน ปืนคู่" มีพฤติกาณ์ ทั้งเสพ ทั้งค้า ยา มีประวัติเข้า-ออกคุกมามากกว่า 5 ครั้งแล้ว นอกจากนี้ข่มขู่ชาวบ้านฆ่าทั้งชุมชนแล้ว ยังได้ข่มขู่ตนเองกับภรรยา บ้านหลังนี้พ่อแม่ให้เป็นมรดก ให้อยู่กัน 2 คนพี่น้อง แต่บังมานต้องการอยู่คนเดียว จึงใช้ปืนบังคับ ข่มขู่ เพื่อให้ตนเองย้ายออกจากบ้านไป จนต้องปิดบ้านและประตูหน้าต่าง ขังตัวเองกันอยู่ภายในบ้าน ส่วนบังมาน จะมีห้องหลักอยู่ด้านหลังบ้าน เวลาตนเองจะออกไปหาซื้ออาหาร หรือสิ่งของได้ก็ต่อเมื่อ "บังมาน ปืนคู่" กับลูกน้องน๊อคยาหลับไป การจับกุมตัวไปดำเนินคดีในครั้งนี้ได้ ตนเองและชาวบ้านในชุมชนคงนอนตาหลับได้อีกนาน จนกว่าบังมานจะพ้นโทษออกมา ซึ่งยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้หรือไม่
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ( กิจการที่เกี่ยวกับยานยนต์ การซ่อม การปรับแต่งเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของยานยนต์ ) โดยไม่ได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทำการสอบสวน "บังมาน" ได้แสดงภาพถ่ายถือปืนคู่ ในโทรศัพท์และได้ตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ ให้ดู อันเป็นที่มาของฉายา "บังมาน ปืนคู่" โดยได้ให้การรับสารภาพ และสำนึกผิด รับปากกับพี่ชายและคนในชุมชน ว่าหากพ้นโทษออกมา จะเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี จึงขอทุกคนให้โอกาสด้วย จากนั้นนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป