ข่าว

heading-ข่าว

เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

21 พ.ค. 2568 | 23:09 น.
เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

รวบกุมเจ้าหน้าที่ธนาคาร ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน เปิดบัญชีม้าให้ใช้หลอกลวงคนไทย สูญทรัพย์กว่า 2,200 ล้านบาท

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยที่ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ด้วยการอำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชีม้า เพื่อใช้รับเงินจากการหลอกลวงเหยื่อชาวไทย เป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกจำนวนมาก ถือเป็นการ "ระเบิดสะพานโจร" ทำลายเครือข่ายธนาคารมืดที่สนับสนุนขบวนการข้ามชาติ

เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สืบเนื่องจากมาตรการเข้มในการปิดช่องทางเปิดบัญชีม้าและการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวด ทำให้ขบวนการโกงชาวจีนปรับแผนใหม่ โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเปิดบัญชีธนาคารด้วยตัวเอง แล้วเร่งกดเงินสดจากตู้ ATM หรือถอนที่เคาน์เตอร์ภายในเวลา 1–2 วัน ก่อนรีบหนีออกนอกประเทศ

โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติในการเปิดบัญชีธนาคารของชาวจีนจำนวน 15 ราย เมื่อเปิดบัญชีเสร็จ ได้ตระเวนกดเงินและถอนสดรวมกันสูงถึง 91 ล้านบาท ภายในเวลาอันสั้น ก่อนเดินทางออกนอกประเทศอย่างรวดเร็ว

เบื้องหลังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ความร่วมมือกับกลุ่มมิจฉาชีพ โดยจัดทำเอกสารเท็จอำนวยความสะดวกให้แก๊งโกงต่างชาติ

ขณะนี้การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป โดยตำรวจเร่งขยายผลไล่ล่าผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เพื่อปิดเกมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว

เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

จากการสืบสวนพบว่าเจ้าของบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 ราย จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยมีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยคอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวจีน อาทิ ซื้อซิม โทรศัพท์ เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะมีเงินถูกโอนเข้ามาให้กับบัญชีธนาคารทั้ง 15 บัญชี รวมเงินประมาณ 118 ล้านบาท จากการตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 บัญชี มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จำนวน 106 คดี แล้วยังพบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี

จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่มีการแจ้งความแล้วจำนวน 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,200 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ศปอส.บช.น. ได้การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอยจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีนที่มาเปิดบัญชีและถอนเงินออกไป

1. MR. YANG (นายหยาง) 
2. MR. XIE (นายเซี่ย) 
3. MR. HANG (นายฮาง) 
4. MR. WU (นายหวู) 

 

นอกจากนั้นขยายผลพบว่าในการเปิดบัญชีธนาคารของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคารมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอชาวจีนดังกล่าว จึงได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคารต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ซึ่งทาง ศปอส.ภ.2. โดย พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 และ  พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม


1. นางสาว ส. ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร


2. นางสาว ช. ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ,ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร


3. นาย ท. ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ,ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร


4. นางสาว ม. ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นล่าม


5. นาย ณ. ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้ข่าว หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาญชากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” (สภ.บางละมุง) เกี่ยวข้องเป็นล่าม
 
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เริ่มปรับตัวใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ ทาง ศปอส.ตร. จะได้มีการขยายผลในคดี จับกุม ยึดทรัพย์ กลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด ซึ่งยังมีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท และในคดีนี้พบช่องว่างของการทำงานของธนาคาร ซึ่งจะต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้นต่อไป

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

เจาะแก๊งคอลฯจีน จับจนท.แบงค์เอี่ยวบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2,000 ล.

ไม่รอด ครูหน้ากากหมา โดนปลดแล้ว ฟันวินัยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

ไม่รอด ครูหน้ากากหมา โดนปลดแล้ว ฟันวินัยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

จนมุมรวบ "ไอ้แบงก์"  มือปลิดชีพพยาบาลสาวหมกห้อง ตกใจรู้เป็นใคร

จนมุมรวบ "ไอ้แบงก์" มือปลิดชีพพยาบาลสาวหมกห้อง ตกใจรู้เป็นใคร

นักแสดงหญิง จากไปกะทันหันในวัย 51 ปี รู้สาเหตุเสียชีวิตยิ่งใจหาย

นักแสดงหญิง จากไปกะทันหันในวัย 51 ปี รู้สาเหตุเสียชีวิตยิ่งใจหาย

สรุปราคาทองคำวันนี้ 21 พ.ค. 68 ราคาทองปรับตัวถึง 16 ครั้ง

สรุปราคาทองคำวันนี้ 21 พ.ค. 68 ราคาทองปรับตัวถึง 16 ครั้ง