ไทม์ไลน์ "เจ๊แก้ว" เศรษฐีนีแม่ค้าทุเรียน สรุปสาเหตุหายตัวปริศนา

ไทม์ไลน์ "เจ๊แก้ว" เศรษฐีนีแม่ค้าทุเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี หายตัวปริศนา สรุปสาเหตุปัญหาครอบครัว หรือ โดนชิงทรัพย์
กรณีการหายตัวไปของ เจ๊แก้ว อายุ 43 ปี แม่ค้าขายส่งทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กลายเป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากเธอหายตัวไปอย่างลึกลับในช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 โดยไม่มีการติดต่อกลับบ้าน ครอบครัวได้แจ้งความและร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจทันที
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเกิดเหตุ เจ๊แก้วได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตลาดเพียงลำพัง กล้องวงจรปิดระบุเส้นทางชัดเจนว่าเธอไม่ได้ขี่รถกลับบ้านตามเส้นทางปกติ แต่กลับ เลี้ยวผ่านสามแยกมุ่งหน้าไปยังวัดพัฒนาราม ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่ "ผิดปกติ" และไม่ใช่ทางกลับบ้านของเธอ โดยเส้นทางเดิมควรจะเลี้ยวเข้า ถนนร่มเกล้า มุ่งหน้าซอยตลาดล่าง 25 อันเป็นที่พักอาศัย
ด้านครอบครัว โดยเฉพาะลูกสาวของเจ๊แก้ว ให้ข้อมูลเชิงลึกว่าผู้เป็นแม่อาจ “น้อยใจสามี” ที่ทำงานไม่มีวันหยุด และแสดงพฤติกรรมไม่ไว้วางใจ เช่น การ ติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้าน เหมือนคอยจับผิด ซึ่งเป็นต้นเหตุของความอึดอัด แม้ไม่มีเหตุทะเลาะรุนแรงแต่ปัญหาที่สะสมในครอบครัวอาจทำให้เจ๊แก้วเลือก “หายตัวไปเอง”
ไทม์ไลน์เจีแก้วหายตัว
- ก่อนวันที่ 17 พ.ค. 2568 (วันเกิดเหตุ)
เจ๊แก้วมีความอึดอัดใจจากปัญหาในครอบครัว โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับสามี ที่ทำงานไม่มีวันหยุด และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้าน-บ้าน ทำให้รู้สึกเหมือนถูกจับตามอง
เคยมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์เมื่อ 2-3 ปีก่อน จนเจ๊แก้วหายออกจากบ้านไปนาน 10 วัน แล้วจึงกลับมา
- เที่ยง วันที่ 17 พ.ค. 2568
เจ๊แก้ว เริ่มปิดการสื่อสาร ตัดการติดต่อจากโทรศัพท์มือถือ ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ตั้งแต่ช่วงนี้
ประมาณ 20.00 น. วันที่ 17 พ.ค. 2568
เจ๊แก้ว ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย โดยลำพัง กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า
- ขับไปตามถนนตลาดล่าง
- แล้วเลี้ยวขึ้นถนนอำเภอ
- มุ่งหน้าไปทาง วัดพัฒนาราม (ไม่ใช่เส้นทางกลับบ้านตามปกติ)
ในขณะที่ สามีของเจ๊แก้ว ออกมาเปิดใจกับสื่อ ยอมรับว่าเคยมีปากเสียงกันเล็กน้อยเรื่องกล้องวงจรปิด และยอมให้ถอดออกตามที่ภรรยาต้องการแล้ว เขายังระบุว่า ก่อนหายตัวไป เจ๊แก้วได้ทิ้ง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไว้ในลิ้นชักโต๊ะบัญชี แต่ ทองรูปพรรณไม่ได้ทิ้งไว้
สามีเจ๊แก้ว ยังยกประเด็นสำคัญว่า เมื่อ 2-3 ปีก่อน เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาว จนเจ๊แก้วหายไปจากบ้านถึง 10 วัน ก่อนกลับมา แต่ครั้งนี้เขาเชื่อว่าไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น พร้อมกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า "หากน้อยใจแล้วออกไป ขอให้กลับมาเถอะ แต่ถ้าเป็นการชิงทรัพย์ ก็ขอให้เอาทองไปแล้วคืนภรรยากลับมา"
ขณะนี้ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ยังไม่ตัดประเด็นใดออก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาครอบครัว, เหตุชิงทรัพย์, หรือแม้กระทั่ง การหายตัวไปโดยสมัครใจ และได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง ทั้ง โรงแรม รีสอร์ท และห้องพัก ที่อาจเป็นจุดพักพิงของเจ๊แก้วหรือมีความเชื่อมโยงกับคดี พร้อมติดตามยานพาหนะของผู้สูญหายเพื่อหาความคืบหน้าต่อไป