รู้แล้ว วินมอเตอร์ไซค์ ทำยายวัย 89 ปี ที่รู้จัก 6 ปี เอาเงินไปทำอะไร

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งพบศพหญิงสูงอายุภายในป่าละเมาะข้างถนนเทิดพระเกียรติ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรเข้าตรวจสอบ

 

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตคือคุณยายวัย 89 ปี ซึ่งหายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน บริเวณลำคอมีร่องรอยถูกรัดด้วยเชือกฟาง 2 เส้น และมีร่องรอยการลากจากพงหญ้าไปยังจุดพบศพประมาณ 10 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าทรัพย์สินของผู้ตาย ได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท แหวนทอง 1 สลึง และเงินสด 10,000 บาทได้สูญหายไป

 

ก่อนหน้านี้ ลูกชายของผู้เสียชีวิต อายุ 65 ปี ได้แจ้งความคนหายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม หลังจากแม่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ต่อมาชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม คุณยายได้เรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างวัย 55 ปี ซึ่งรู้จักกันมานานกว่า 6 ปี ให้พาไปกดเงินที่ตู้ ATM เป็นเงิน 10,000 บาท

 

จากนั้นเวลา 11.00 น. กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า ชายคนดังกล่าวพาคุณยายขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าตามถนนพัฒนาการคูขวาง ก่อนเลี้ยวเข้าถนนเทิดพระเกียรติ ซึ่งชุดสืบสวนเชื่อว่าเขาได้พาผู้ตายเข้าไปในป่าละเมาะห่างจากถนนประมาณ 70 เมตร ใช้เชือกฟางรัดคอจนเสียชีวิต แล้วนำศพใส่กระสอบปุ๋ยไปทิ้งในบริเวณน้ำขัง ก่อนหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับชายผู้ต้องหาในข้อหา

• ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
• ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
• ใช้ยานพาหนะในการหลบหนี
• ลอบฝัง ซ่อนเร้น หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย

 

 

ศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.254/2568 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม จากนั้น พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจากหลายหน่วย เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายเจริญ หรือ “ไอ้เตี้ย” ได้สำเร็จ ขณะหลบซ่อนอยู่ในบ้านญาติที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยการจับกุมครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.สส.ภ.8

 

เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

 

ทั้งนี้ เพจ “เจ๊ม้อย v+” ได้รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากก่อเหตุ นายเจริญได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปขายที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนหลบหนีไปยังเกาะสมุย โดยคาดว่าเงินสดที่ได้ถูกนำไปใช้หนี้พนันจนหมด