ตร.คุมตัวแก๊งชายหญิง รุมทำร้ายสาวท้อง สอบเข้ม หวิดถูกรุมประชาทัณฑ์

ตร.สุทธิสารไม่รอช้า ตามจับผู้ก่อเหตุทันที คุมตัวสอบเข้ม หาแรงจูงใจ จากคลิปสุดโหดในซอยรัชดา 13 กำลังสอบปากคำอย่างเข้มข้น
ตร.คุมตัวแก๊งชายหญิง รุมทำร้ายสาวท้อง สอบเข้ม หวิดถูกรุมประชาทัณฑ์ มีการโพสต์คลิปวีดีโอรุมทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งลงสื่อสังคมออนไลน์ ระบุสถานที่ภายใน ซอยรัชดา 13 หลังโพสคลิปได้ไม่นาน ตำรวจ สน.สุทธิสาร เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี แต่ขณะควบคุมตัวมาสอบปากคำ กลุ่มเพื่อนผู้เสียหายกว่าร้อยคน ที่รวมตัวหน้าสถานีตำรวจ พยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์ หลังไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจกว่า 20 นายจึงพยายามเข้าระงับเหตุอย่างชุลมุน
นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน้าอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายใน ซอยรัชดา 13 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดงกรุงเทพมหานคร ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา (คืนวันเสาร์) กลุ่มชายหญิงผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่ง ได้รุมทำร้ายสาวคนหนึ่ง ตลอดเนื้อหาที่ถูกนำมาโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์นานถึง 4 นาที ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ ช่วงหนึ่งในคลิปวีดีโอผู้เสียหายพยายามวิ่งหนี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุวิ่งตามและนำตัวมาร่วมทำร้ายซ้ำ
ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้มาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และเป็นกระแสในเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา
ก่อนทราบว่าผู้เสียหายคือ นางสาวไหม เปลี่ยนสมุทร อายุ 27 ปี ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียหายได้เข้ามาร้องขอตำรวจสน.สุทธิสาร และ เพจกันจอมพลัง ให้ช่วยตามหาผู้เสียหายที่ปรากฏในคลิป เนื่องจากอยู่คนละที่กับครอบครัวและไม่สามารถติดต่อได้
พันตำรวจเอกพรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เร่งค้นหา ก่อนพบผู้เสียหายเดินอยู่ภายในซอยใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และนำตัวมาพบญาติก่อนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน
ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่นาน สามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 5 คน เป็นหญิง 3 คน คือ นางสาวแนน นางสาวเฟิร์น และนางสาวก้อย ชาย 2 คน คือ นายกนึ่ง และนายบอย ถูกนำตัวมาสอบปากคำ แต่ขณะคุมตัวผู้ก่อเหตุชายเข้าห้องสืบสวน เพื่อนของกลุ่มผู้เสียหายที่มารวมตัวหน้าสถานีตำรวจกว่า 100 คน ไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์กลุ่มผู้ก่อเหตุจนเกิดเหตุชุลมุน ก่อนที่ตำรวจกว่า 20 นายเข้าระงับเหตุไว้ได้โดยทันที และพยายามพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหาย ให้เข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนจะสลายตัวไป
นางฉันทนา สนริ้ว อายุ 51 ปี แม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกสาวของตัวเองพยายามร้องขอชีวิต และยอมแพ้แล้ว แต่ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ยอมหยุดที่จะรุมทำร้าย โดยบางช่วงลูกสาวพยายามอ้างว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อให้กลุ่มที่รุมทำร้ายหยุดลงมือ แต่ก็ไม่เป็นผล ถึงขั้นวิ่งตามไปรุมทำร้ายซ้ำ ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ยอมความและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ยอมรับว่าลูกสาวของตัวเองมีการใช้สารเสพติด และมักจะมีอาการทางสมอง พยายามพาไปบำบัดแล้ว แต่ก็ยังกลับมาใช้สารเสพติดอยู่ ก่อนหน้านี้ทราบว่าเคยไปมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่ไม่ทราบรายละเอียด
ขณะที่กลุ่มเพื่อนของผู้เกิดเหตุเล่าว่า นางสาวไหมเคยถูกรุมทำร้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์มาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคมได้ไปทำร้ายร่างกาย คู่อริคืน ก่อนมาถูกรุมทำร้ายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงเกิดความไม่พอใจกับกลุ่มพวกของตัวเองเป็นอย่างมาก
สำหรับการดำเนินคดี ทั้ง 5 คน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ก่อนทั้ง 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนัด ไปส่งฝากขังต่อศาลอาญา วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ สำหรับนางสาวไหมผู้เสียหาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้าย และกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากยังปล่อยอยู่ในพื้นที่ นายธนกิจ จิตอารีรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเดินทางมารับตัวผู้เสียหายเข้าไปอยู่ในการดูแล ในช่วงเวลา 11:00 น. ของวันนี้รวมถึงจะประสานงานในเรื่องของการเข้ารับบำบัดผู้ใช้ยาเสพติด กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง