ข่าว

heading-ข่าว

"ทราย สก๊อต" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

04 พ.ค. 2568 | 14:58 น.
"ทราย สก๊อต" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

"ทราย สก๊อต" เรียกร้องสิทธิ์ความเป็นมนุษย์ของชาวมอแกน เผยความรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

เชื่อว่าตอนนี้หลายคนรู้จักกันดี สำหรับ ทราย สก๊อต หรือ สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี นักอนุรักษ์ทะเลรุ่นใหม่ ทายาทรุ่นที่ 4 ของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 68 ทราย สก๊อต เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก ทราย - Merman Ψ เผยสาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก ระบุว่า "*ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงใครแต่จะเล่าในสิ่งที่ทรายเห็นและเจอ เพื่อหวังว่าจะได้มีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น"

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นอุทยานเดียวในช่วงระหว่างที่ทรายทำงานเป็นที่ปรึกษาอธิบดีทรายจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เราเคยไปเกาะนี้แค่สามครั้งและถือว่าไม่อยากกลับไปอีก ทำไมทรายถึงรู้สึกอึดอัด?

 

ครั้งแรกที่ทรายไปเกาะสุรินทร์ก็จะเป็นสามปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นทรายได้จองทัวร์ นอน camp บนเกาะและดำน้ำ 3 วัน ทรายไม่ได้ทราบก่อนหน้าว่าทัวร์ที่ทรายจองนี้มีชื่อเสียงในพื้นที่เพราะเขานำเด็กชาวมอแกนมาเป็นเหมือนทัวร์ไกด์/ พนักงานสอนดำน้ำ น้องๆชาวมอแกนจะมีประมาณ 5-6 คน อายุตั้งแต่ 12-18 ... วันนึงน้องๆพา นทท ดำน้ำตั้งแต่ (คร่าวๆ 9 โมงเช้าจนถึงบ่าย สีโมง) เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำและ ดำน้ำถ่ายภาพกับแขก (บางทริปน้องๆต้องรับมือดูแล กลุ่มลูกค่าทัวร์ 10 คน!) รวมถึง ทำหน้าเสริฟอาหารให้แขกและเก็บจาน....ค่าจ้างและค่าตอบแทน? เดือนละ 4000 และทางเจ้าของทัวร์จะให้ tip เด็กๆด้วยการเติมเนตโทรศัพท์มือถือของน้องๆเพื่อได้เล่นเกม

 

......ตอนนั้นทรายไปเที่ยวรู้สึกอึดอัดมากๆ เพราะในสังคมธรรมดาเขาไม่ได้จ้างเด็กมาเป็นแรงงานและขนาดตอนทานข้าวเที่ยงบริษัททัวร์ดังกล่าวจะไม่ให้ น้องๆ (จริงสมควรเรียกว่าเด็กๆ ) มานั้งทานข้าวด้วยกัน- เด็กๆจะต้องนั้งตรงพนักงานไม่สามารถมาให้นั้งกับลูกค่าได้

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับลูกค่าที่เป็นผู้หญิงสาวๆ ทัวร์นี้ก็จะให้เด็กชาวมอแกนผู้ชายถอดเสื้อถ่ายภาพด้วย..

 

เด็กๆชาวมอแกนกลุ่มนี้ จะทำงานทุกฤดูการท่องเที่ยวตามช่วงที่อุทยานเปิด... น้องๆจะไป'รับใช้' ทัวร์ทุกๆครั้งที่มีลูกค่าจองมา โดยจะมีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนนึงที่คอย 'เกณฑ์' และ'รวบรวม' น้องๆมารายงานตัวกับทัวร์

 

ทรายสังเหตุว่าสถานการที่น้องๆมอแกนอยู่ไม่ปลอดภัยเลยหลังจากที่ทัวร์เสร็จทรายได้เบอร์ติดต่อน้องๆโดยตรงและจะคอยทักไปถามเรื่องการเป็นอยู่ และชวนมาทำกิจกรรมอาสาสมัครข้างนอกพื้นที่เกาะเพื่อจะได้โอกาสเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แต่น้องๆจะกล่าวเสมอว่าต้องถามทางเจ้าของทัวร์และทุกครั้งเจ้าของจะปฏิเสธไม่ให้น้องๆมา

(หลักฐาน chat ลงใน post)

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

ชาวมอแกนอาศัยอยู่บนหาดเล็กๆบนเกาะสุรินทร์ในเขตอุทยาน ทั้งชุมชนอยู่บนหาดเดียวยาวประมาณ 230 เมตร..ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้แม้ว่า ประชากรเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ณ วันนี้พื้นที่หาดที่ชุมชนชาวมอแกนอาศัยมีบ้านเรียงติดๆกัน 100 กว่าหลัง....ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ก็จะเห็นว่าสภาพสุขอนามัยเป็นสภาพที่ ควรตั้งคำถามต่อการเป็นอยู่ของเขา

 

ครั้งที่สามล่าสุดที่ทรายไปเกาะก็คือตอนที่ทรายได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทรายเลยเอาเรื่องราวนี้เรียนหัวหน้าอุทยานช่วงต้นปีที่แล้ว ทรายเล่าว่ามีบริษัททัวร์ในพื้นที่อุทยานกำลังใช้แรงงานเด็ก ทางหัวหน้าบอกทรายว่าเขาทราบและรู้จักบริษัท (การพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้สงผลการเปลี่ยนแปลงใด) เพราะในสำนักงานอุทยานบนเกาะเองเขาก็ได้จ้างชาวมอแกน มาทำงานเก็บกวาด/ ทำงานครัว/ ทำงานแบกกระสอบข้าว/ ขนของ ช่วยงานอุทยานทั้งวัน เมื่อทรายถามพนักงานมอแกนว่าอุทยานให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่เขาตอบว่าเดือนละ 4000/5000....

อยากเพิ่มข้อมูลให้ทุกคนว่าชาวมอแกนส่วนใหญ่เป็นคนไทยนะครับ (สมเด็จย่าได้ให้นามสกุลชาวมอแกนว่า 'กล้าทะเล' และหลายๆคนในชุมชนมีบัตรประชาชนไทย)

 

ในช่วงต้นปีที่แล้วทรายได้แวะไปช่วยภารกิจอนุรักษ์ของอุทยานสามวันเลยได้นึกถึงน้องๆ ที่ทรายเคยรู้จักและชวนมาอาสาช่วยงานอุทยานกับทราย (ออกจากน้องๆ 6 คนที่ทรายรู้จักในปีที่ผ่านมาตายไปสอง) เหลือแค่ 4 คน...แต่สำหรับภารกิจรอบนี้ทรายได้น้องมอแกนมาร่วมกิจกรรมอาสาสมัครสองคนที่เหลือติดงานทัวร์ (รอบอื่นๆที่ชวนน้องมาร่วมกิจกรรมบริษัททัวร์ไม่ให้น้องมาแต่รอบนี้ทรายใช้อำนาจของตำแหน่งกดดันให้เขาปล่อยให้เด็กมา)

 

ทำไมทรายถึงนำน้องๆมาลองร่วมอาสาและเรียนรู้ในภารกิจของอุทยาน? ชาวมอแกนไทยเป็นแรงบันดาลใจส่วนนึงของหนัง Avatar Way of Water - เพราะชาติพันธุ์ของน้องๆและกรรมพันธุ์ของชาวมอแกนที่อยู่คู่ทะเลมาเสมอเปลี่ยนให้ร้างกายของพวกเขาสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานกว่ามนุษย์ปกติและบางคนมีสายตาใต้น้ำดีมากๆ ... นี้คือพรสวรรค์ที่ทรายเห็นในตัวน้องๆกับตาจึงอยากให้เขามาช่วยภารกิจ + อีกเหตุผลที่ทรายอยากให้น้องๆมาร่วมกิจกรรมด้วยเพราะต้องการให้ น้องๆที่ทรายรู้จักได้มาอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่อุทยาน (ให้เจ้าหน้าที่เขารู้ว่าทรายรู้จักน้องๆ) เพื่อจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ..

 

ภารกิจหลักของเราในสามวันนั้นคือการดำน้ำสำรวจปะการังด้วยและเก็บขยะ ซึ่งน้องๆเขาสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แม้ว่าจะต้องดำน้ำไป 10 กว่าเมตรเขาสามารถดำลงไปตัดอวนและดึงกลับขึ้นฝั่งเร็วกว่าเจ้าหน้าที่บนเกาะเอง + เมื่อเราทำภารกิจสำรวจแนวปะการัง น้องๆสามารถชี้และสังเกตุ สัตว์ทะเลและเศษอวนเร็วกว่าทุกๆคนในกลุ่มทีมงาน

 

ช่วงเย็นทรายใช้โอกาสนั้งเรือไปที่หมู้บ้านชาวมอแกนและนั้งคุยกับชาวมอแกนท่านนึงเขาเล่าว่าชาวมอแกนบนเกาะไม่สามารถ สร้างเรือตามรูปทรงของวัฒนธรรมของเขาได้เพราะถูกกดดันว่าชาวมอแกนต้องซื้อเรือหางยาวจากฝั่งพังงามาทำทัวร์ (เพราะมันไปตามภาพของการท่องเที่ยวของทะเลใต้)

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

บนเกาะมีโรงเรียนหนึ่งโรงและมีคุณครูอาสาสมัครมาสอนท่านเดียว ครูคนนี้จะต้องสอนทุกๆวิชาและด้วยการเดินทางที่ลำบากบางครั้งก็จะไม่ได้มาสอนเด็กๆบนเกาะ... จึงสงผลให้เด็กๆมอแกนไม่ได้รับการศึกษาเหมือนเด็กไทยคนอื่นๆ

 

หลังจากที่ภารกิจจบและทรายกลับฝั่งทรายได้รายงานอธิบดี เรื่องของการที่อุทยานจ้างชาวมอแกนเดือนละ 4000/5000 และมีแรงงานเด็ก

 

สองเดือนต่อมาน้องชาวมอแกนที่มาช่วยอาสางานกับทรายทักมาบอกผ่าน messenger ว่าน้องอีกคนนึงที่ชื่อว่าน้อง ชล ถูกรถชนเสียชีวิตระหว่างที่เดินทางในตัวเมืองพังงา (น้อง ชล ได้โอกาสไปฟึกงานกับบริษัททัวร์แถวเกาะสิมิลัน/ น้องชลยังไม่อายุ 18 ที) น้องที่ติดต่อมาอยากให้ทรายช่วยคิดหาทางนำศพน้อง ชล กลับมาฝังศพที่เกาะสุรินทร์ ทรายเลยบอกน้องเขาว่าจะคุยกับอุทยานให้...แต่ทรายเองรู้สึกหดหู่มากว่าขนาดในกรณีแบบนี้ทำไมน้องๆเขาไม่รู้สึกว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บนเกาะได้

(หลักฐาน Chat เป็นภาพประกอบกับ post นี้)

 

ชาวมอแกน (ซึ่งเป็นส่วนนึงของประชากรคนไทย) เป็นสมาชิกที่สำคัญของสังคมเรา นอกเหนือจากกลยุทธและความสามารถทางดำน้ำของน้องๆ วัฒนธรรมและประวัติของชาวมอแกนเป็นสีสันของประเทศไทยที่เตือนให้เราทบทวนถึงความหลากหลายของคำว่า 'คนไทย'

 

ความเป็นอยู่ของชีวิตเขาสมควรคู่ควรกับความสามารถของเขา ทางองค์กรใหญ่ๆและภาครัฐควรเพิ่มโอกาสเพื่อสงเสริมและนำความสามารถของเขามาเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ยกระดับการท่องเที่ยวทะเลไทยใต้ให้เป็นสีสัน หาไม่ได้ที่อื่น- นอกเหนือจากนั้นชาวมอแกนเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานในพื้นที่มากๆเพราะเขาเข้าใจพื้นที่ดีกว่าคนอื่นๆ...

 

ทรายมาเล่าให้ทุกคนฟังเพราะผมสัญญากับตัวเองว่าเมื่อพร้อมและมีโอกาสทรายจะพูด และอยากให้ชาวมอแกนออกมาเล่าเรื่องราวของเขา.. อยากให้ทุกคนสนใจของเรื่องราวการเป็นอยู่ของน้องๆชาวมอแกน เพราะเด็กไทยทุกคนสมควรได้ชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัย

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

\"ทราย สก๊อต\" เผยรู้สึกอึดอัด สาเหตุไม่อยากกลับไปหมู่เกาะสุรินทร์อีก

 

ขอบคุณ ทราย - Merman Ψ

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

กรมอุตุเตือน 7 วันนี้ เหนือ-อีสาน เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

กรมอุตุเตือน 7 วันนี้ เหนือ-อีสาน เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน

ดวง 2 ราศีเฮงยืนหนึ่ง รับดาวราหูย้าย เข้าสู่ราศีกุมภ์ 5 พ.ค 2568

ดวง 2 ราศีเฮงยืนหนึ่ง รับดาวราหูย้าย เข้าสู่ราศีกุมภ์ 5 พ.ค 2568

กินทุเรียนผิดวิธี ชีวิตพังไม่รู้ตัว อันตรายกว่าที่คุณคิด

กินทุเรียนผิดวิธี ชีวิตพังไม่รู้ตัว อันตรายกว่าที่คุณคิด

เปิดโผ 5 จังหวัด "มีคนน้อยสุดในไทย" ที่คุณอาจไม่เคยรู้!

เปิดโผ 5 จังหวัด "มีคนน้อยสุดในไทย" ที่คุณอาจไม่เคยรู้!

ภัยเงียบใกล้ตัว! 5 อาหารอร่อยปาก เสี่ยง "หัวใจวาย" ไม่รู้ตัว

ภัยเงียบใกล้ตัว! 5 อาหารอร่อยปาก เสี่ยง "หัวใจวาย" ไม่รู้ตัว