หนุ่มร้องเพจดัง ถูกไรเดอร์ทำร้ายร่างกาย ข้อหาหน้าเหมือนฝาแฝด

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 68 นายอานนท์ (สงวนนามสกุล) เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม ต่อเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกไรเดอร์บุกเข้ามาทำร้ายถึงในห้องนอน ขณะที่ตนเองนอนหลับอยู่บนเตียง จนได้รับบาดเจ็บ

นายอานนท์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนเองนอนหลับอยู่ในบ้าน ได้มีชายไรเดอร์ขับรถส่งพัสดุของบริษัทชื่อดัง บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายตนขณะที่นอนอยู่ โดยการต่อยเข้าที่ใบหน้าสองที จนตนสดุ้งตื่นขึ้น ชายไรเดอร์ก็ได้ใช้เตารีดเหวี่ยงมาใส่หน้าอีกหนึ่งครั้ง และปาแก้วสแตนเลสมาใส่ตนอีกครั้งจนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและดวงตาหลายจุด  ก่อนที่ป้าและแฟนสาวมาเห็นเหตุการณ์เมื่อเข้าไปห้ามชายคนดังกล่าวก็ได้ทำร้ายร่างกายทั้งสองคนนี้ด้วย

และเอ่ยกับป้าตนว่าอยากจะแก่ตาย หรืออยากจะตายตอนนี้เลย และยังวิ่งไปหยิบมีดมาเพื่อจะเข้ามาแทง ตอนนั้นจึงได้ปิดประตูบ้านกันเอาไว้ แต่ชายคนทังกล่าวก็พยามทำลายประตูห้องเพื่อจะเข้าไปทำร้ายร่างกายตนอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ชายคนดังกล่าวก็ได้ขี่รถหายไปประมาณ 5 นาที ก่อนจะกลับมาพร้อมเพื่อน 5-6 ราย เพื่อหวังทำร้ายร่างกายอีกครั้ง แต่ตนไหวตัวทัน จึงหลบหนีออกไปจากบ้านก่อน

เมื่อสอบถามว่าทำไมตนถึงถูกทำร้ายร่างกาย นายอานนท์ บอกว่า เพราะตนมีหน้าคล้ายพี่ชายฝาแฝด โดยอีกฝ่ายเข้ามาทำร้ายเพราะเรื่องบาดหมางระหว่างพี่ชายฝาแฝดกับผู้ก่อเหตุ เมื่อถามว่าเป็นการทำร้ายผิดตัว นายอานนท์บอก ไม่ได้ทำร้ายผิดตัว แต่อีกฝ่ายบอกว่าเข้ามาทำร้ายร่างกายเพราะตนหน้าเหมือนพี่ชายฝาแฝดที่ทำงานอยู่ต่างประเทศตอนนี้ และเป็นการทำร้ายร่างกายแบบฝาก ซึ่งตอนนี้ตนได้รับบาดเจ็บและคืนวันนี้ แพทย์ได้นัดไปดามกระดูกบริเวณใต้ตาเนื่องจากว่าจุดนี้ได้รับการกระแทกจากแก้วเยติจนกระดูกแตก 

ทำให้เข้ามาร้องสายไหมต้องรอดให้ช่วยติดตามนำตัวผู้กระทำความผิดเข้ามาดำเนินคดี เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้เข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลสายไหมแล้ว กลับพบว่าอีกฝ่ายได้โทรมาเคลียร์กับทางตำรวจจึงกลัวว่าเรื่องนี้จะเงียบไป และอยากให้ทางตำรวจได้ตรวจร่างกายผู้ก่อเหตุเพราะมีลักษณะเหมือนอาการมึนเมา แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นสุราหรือสารเสพติด และอีกฝ่ายยังได้โพสต์ข่มขู่อีกด้วย

ด้านเจ้าหน้าที่เพจสายไหมต้องรอด บอกว่าจะดำเนินการประสานไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสายไหมเพื่อให้ช่วยติดตามล่าตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีคดีไปทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นจนได้รับบาดเจ็บแต่เรื่องก็เงียบไป