ข่าว

heading-ข่าว

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

01 พ.ค. 2568 | 16:15 น.
อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

อย่าชะล่าใจ โรคแอนแทรกซ์ พบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบ 20 ปี อย่ามองข้ามเด็ดขาด เตือนประชาชนให้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

พบผู้เสียชีวิตจาก “แอนแทรกซ์” รายแรกในรอบเกือบ 20 ปี โรคติดเชื้อร้ายแรงอย่าง โรคแอนแทรกซ์ กลับมาปรากฏอีกครั้งในประเทศไทย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบสองทศวรรษ สร้างความกังวลในวงการสาธารณสุข เบื้องต้นมีการเตือนประชาชนให้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย ซากสัตว์ และการบริโภคเนื้อดิบหรือไม่ปรุงสุก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

 

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากกรณี “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์เตือนภัย! มีคนเสียชีวิตด้วยโรคแอนแทรกซ์ ในพื้นที่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร 1 ราย มีประวัติสัมผัสวัว ควาย ตามวิถีชาวบ้าน และล่าสุดกินเนื้อวัวดิบในงานบุญฯ เห็นว่ากินกันหลายคน แต่โชคดีที่รู้แล้วว่าเป็นแอนแทรกซ์รายต่อๆ ไปน่าจะรักษาได้ตรงจุดได้ไว

 

อย่าชะล่าใจ แอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

โรคแอนแทรกซ์ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค.) มีรายงานว่า นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทย ภายหลัง พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่จังหวัดมุกดาหาร โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 53 ปี มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และประกอบอาชีพรับจ้างก่อสร้าง เริ่มมีอาการตุ่มแผลขึ้นที่มือขวาตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2568 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 27 เมษายน 2568 ด้วยอาการแผลที่มือมีสีดำชัดเจน ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ขวาโต และมีอาการหน้ามืด ชักเกร็ง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

แพทย์ผู้ทำการรักษาได้สงสัยว่า ผู้ป่วยอาจติดเชื้อแอนแทรกซ์ จึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งผลตรวจยืนยันพบเชื้อ Bacillus anthracis จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และทีมปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและพบผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 247 คน แบ่งเป็นผู้ที่ชำแหละโค 28 คน และผู้ที่บริโภคเนื้อโคดิบ 219 คน โดยได้ดำเนินการให้ยาป้องกันโรคในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และอยู่ระหว่างดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่

โรคแอนแทรกซ์ โรคจากอดีตหวนคืน อย่ามองข้ามเด็ดขาด

 

นายแพทย์ภาณุมาศ อธิบายว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสปอร์ของเชื้อมีความทนทานในสภาพแวดล้อม และสามารถก่อโรคได้นานหลายปี แหล่งรังโรคหลักคือสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ และแกะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรง การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสสัตว์ป่วยโดยตรง เช่น ชำแหละเนื้อ บริโภคเนื้อดิบหรือปรุงไม่สุก หรือสัมผัสหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีเชื้อ หลังรับเชื้อ 1-5 วัน จะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง มีแผลคล้ายบุหรี่จี้ หายใจขัด หากรุนแรงมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80% ข้อมูลจากกองระบาดวิทยาพบผู้ป่วยในไทยครั้งล่าสุดในปี 2543 รวม 15 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

 

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านว่า ในปี 2567 ประเทศลาวพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์ 129 ราย เสียชีวิต 1 ราย และเมื่อพฤษภาคม 2566 เวียดนามพบการระบาด 3 เหตุการณ์ ผู้ป่วยรวม 13 ราย และผู้สัมผัส 132 ราย จากการกินเนื้อโคและกระบือเช่นกัน

 

สำหรับแนวทาง การป้องกันโรคแอนแทรกซ์ นายแพทย์ภาณุมาศ แนะนำให้ประชาชน 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ 2. ล้างมือหลังสัมผัสสัตว์ 3. เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย 4. หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที 5. หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"ส.ป.ก." ประชุมเตรียมความพร้อม Kick off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา

"ส.ป.ก." ประชุมเตรียมความพร้อม Kick off มอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา

เปิดดวง 3 ราศีสุดปัง! เตรียมรับทรัพย์ โชคลาภวิ่งเข้าหา

เปิดดวง 3 ราศีสุดปัง! เตรียมรับทรัพย์ โชคลาภวิ่งเข้าหา

เปิดดวง 6 ราศี ราหูย้ายโชคพุ่งเข้า ดวงได้ของใหญ่ พฤษภาคมนี้

เปิดดวง 6 ราศี ราหูย้ายโชคพุ่งเข้า ดวงได้ของใหญ่ พฤษภาคมนี้

ภารกิจยังไม่จบ ตึก สตง. ถล่ม ล่าสุด พบอีก 5 ร่าง ลุยค้นหาไม่หยุด

ภารกิจยังไม่จบ ตึก สตง. ถล่ม ล่าสุด พบอีก 5 ร่าง ลุยค้นหาไม่หยุด

ระวัง ผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยง เพราะอาจเกิดอันตรายได้

ระวัง ผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยง เพราะอาจเกิดอันตรายได้