ข่าว

heading-ข่าว

"เอสซีจี" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68 รุก"4กลยุทธ์"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

30 เม.ย. 2568 | 18:56 น.
"เอสซีจี" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก"4กลยุทธ์"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  กระแสเงินสดแกร่ง กำไรดีขึ้นทุกธุรกิจรุก“4กลยุทธ์” สู้ศึกสงครามการค้าโลก 1.) ลดต้นทุน แข่งตลาดโลก2.) ขยายพอร์ตสินค้าคุณภาพราคาจับต้องได้ 3.) บุกตลาดใหม่ศักยภาพสูง 4.) สร้างความได้เปรียบจากฐานการผลิตอาเซียน

กรุงเทพฯ 30 เมษายน 2568 – เอสซีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ดีขึ้นกว่าไตรมาส 4 ปี 2567กระแสเงินสด (EBITDA) แข็งแกร่งต่อเนื่อง 12,889 ล้านบาท กำไร1,099 ล้านบาทจากการเร่งปรับตัวสู้ความท้าทายในทุกธุรกิจ และมาตรการเสริมความเข้มแข็งการเงินต่อเนื่อง พร้อมยกระดับ “4กลยุทธ์” สู้ศึกสงครามการค้าโลกรุนแรงยืดเยื้อ

1.) ลดต้นทุน แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก

2.) ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับทั้ง “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูงสินค้ากรีนและสินค้าคุณภาพราคาจับต้องได้”

3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง

4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียนมั่นใจธุรกิจมีเสถียรภาพเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทาย 

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ไตรมาส1 ปี 2568 เอสซีจี มีกำไรสำหรับงวด 1,099 ล้านบาทเนื่องจากทุกธุรกิจปรับตัวดีขึ้นตามมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เร่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน ด้วยการลดต้นทุนการผลิตและการบริหารจัดการ รวมทั้งการขยายตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้างมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลก่อสร้างและงบประมาณภาครัฐที่เบิกจ่ายต่อเนื่อง

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

ขณะที่เอสซีจี เคมิคอลส์ (เอสซีจีซี) ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนและปรับพอร์ตสินค้า รวมถึงเอสซีจีพีที่ยังคงแข็งแกร่งจากการมุ่งเน้นการเติบโตเพื่อรองรับอุปสงค์ของผู้บริโภคภายในประเทศของกลุ่มอาเซียน เสริมพอร์ตสินค้าสำหรับผู้บริโภค (Consumer Packaging) ควบคู่กับการบริหารต้นทุน 

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

ขณะเดียวกัน เอสซีจี ได้ดำเนินมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการกระแสเงินสด ต้นทุน และเงินทุนหมุนเวียนอย่างระมัดระวัง ส่งผลให้ไตรมาส1 ปี 2568 เอสซีจี มีกระแสเงินสด (EBITDA)12,889 ล้านบาทสะท้อนการปรับตัวฉับไวของธุรกิจเพื่อคงศักยภาพการแข่งขันท่ามกลางความท้าทาย 

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก
สำหรับ สถานการณ์สงครามการค้าโลกจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่รุนแรง ล่าสุด “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” (IMF)ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือเพียง 2.8%ปัจจัยสำคัญมาจากการลดประมาณการ GDP ลงเกือบทุกประเทศ สำหรับ GDPประเทศไทย ปรับลดลงเหลือ 1.8%
 

เอสซีจี ได้ประเมินสถานการณ์และผลกระทบจากสงครามการค้าโลกพบว่า

1.) ผลกระทบทางตรงต่อเอสซีจี มีเล็กน้อย เนื่องจากในปี 2567 มีการส่งออกไปสหรัฐฯ เพียง 1% จากยอดขายรวมของเอสซีจี

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก
2.) ผลกระทบทางอ้อมหากพ้นระยะที่สหรัฐฯ ประกาศชะลอการจัดเก็บภาษีนำเข้า 90 วัน กลุ่มประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯอาจถูกเก็บอัตราภาษีที่แตกต่างกันโดยเฉพาะในประเทศไทยที่อาจถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 36%ตามที่สหรัฐฯ ประกาศเมื่อ 2 เมษายน 2568จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและโลกจะชะลอตัวรุนแรงการส่งออกระหว่างประเทศ รวมถึงการทะลักของสินค้าจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศไทยจะส่งผลให้
การแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น”

 

นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า “สงครามการค้าได้สร้างแรงกดดันทั่วโลกแต่ยังมีโอกาสที่ซ่อนอยู่ เช่น แนวโน้มราคาน้ำมันโลกที่ลดลง ผู้ผลิตปิโตรเคมีในจีนประสบปัญหาการจัดหาวัตถุดิบจากสหรัฐฯ ตลอดจนบางตลาดยังมีกำลังซื้อสูงสำหรับสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง(High-Value Added Products- HVA Products) สินค้ากรีน (Green Products) และสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้(Quality Affordable Products) เอสซีจีจึงยกระดับการปรับตัวให้เข้มข้นรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ด้วย 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.) ลดต้นทุนแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก 

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก
2.) ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับทั้ง “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง สินค้ากรีน และสินค้าคุณภาพราคาจับต้องได้”3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง และ 4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียนประกอบกับมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินที่ทำต่อเนื่องอย่างได้ผล ทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถฝ่าความท้าทายจากสงครามการค้าโลกได้อย่างทันท่วงที”

4 กลยุทธ์รับมือสงครามการค้าโลกของทุกธุรกิจในเอสซีจี


1.) ลดต้นทุน แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกเพื่อรับมือสินค้าราคาถูกจากประเทศอื่นที่อาจเข้ามาแข่งขันด้วยวิธีการดังนี้


•    ลดต้นทุนการผลิต(Operation Cost) โดยควบรวมไลน์การผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนโดยเพิ่มการใช้ Robotic Automationเช่นเอสซีจี ไฮม์ใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะประกอบบ้านโมดูลาร์ทนแผ่นดินไหวอย่างแม่นยำและเอสซีจี เดคคอร์ ผลิตสุขภัณฑ์ COTTO ใช้เครื่องหล่อแรงดันสูงและระบบพ่นสีเคลือบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ให้ขึ้นรูปสุขภัณฑ์ได้รวดเร็วสีเรียบเนียนสม่ำเสมอและใช้เทคโนโลยีการประมวลภาพ (Image Processing) ช่วยตรวจวิเคราะห์คุณภาพสินค้าอย่างแม่นยำเพื่อความมั่นใจในมาตรฐานก่อนส่งถึงมือลูกค้า 

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก
•    ลดต้นทุนการบริหารจัดการ (Admin Cost) โดยเพิ่มการใช้ AIปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร เช่น ใช้ AI ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างหรือการคาดการณ์ความผิดปกติของเครื่องจักรก่อนเกิดความเสียหาย(Predictive Maintenance)


•    ปรับลดเงินทุนหมุนเวียน(Working Capital)ตลอดห่วงโซ่อุปทานส่งผลให้สามารถลดหนี้สินสุทธิลงเหลือ 290,504 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2568 และเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ


•    เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานชีวมวล(Biomass)และพลังงานทางเลือก (Alternative Fuel) ในกระบวนการผลิต เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ลดต้นทุนเพิ่มความได้เปรียบด้านการแข่งขัน และรักษ์โลกโดยในไตรมาส 1 ปี 2568เอสซีจี ใช้พลังงานทางเลือกในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 44%ของเชื้อเพลิงทั้งหมด

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

2.)ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับ 


•    พัฒนา“สินค้ามูลค่าเพิ่มสูงและสินค้ากรีน”(HVA Products& Green Products)ให้ตอบโจทย์ตลาดเช่นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาดใหญ่,ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นGen 3ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ประมาณ40%ตั้งเป้าจำหน่ายในกลุ่มสินค้าปูนตกแต่งในไตรมาสที่ 4 ปี 2568,กลุ่มสินค้าหลังคา ผนังและพื้นตกแต่งที่ใช้เทคโนโลยี Digital Printing พร้อมUV Coating เคลือบผิวทนทาน กันเชื้อราและหลอดฉีดยาและเข็มฉีดยาที่เอสซีจีพี ผสานความร่วมมือกับOnce Medical Company Limited 


•    เพิ่ม“สินค้าคุณภาพราคาจับต้องได้”(Quality Affordable Products)ที่มีความต้องการสูง ทำกำไรทันที เช่น เอสซีจี โซลาร์รูฟ ที่ผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ และมีหลายแพ็กเกจราคาให้เลือก,หลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น Celica Curveที่คุ้มค่า ทนทาน สีสวยติดทนกว่าด้วยเนื้อเซรามิก, กระเบื้องคอนกรีตปูพื้นทางเดิน เอสซีจี ที่มีดีไซน์และลายยอดนิยม แข็งแรงทนทาน ใช้ในงานออกแบบได้หลากหลาย และ ท่อ PVC เกษตร ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของเกษตรกร

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยขยายการส่งออกสินค้า เช่น ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ กระเบื้องคอนกรีตสมาร์ทบอร์ด กระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและความต้องการ เช่น ประเทศที่ปรับตัวและได้ประโยชน์จากสงครามการค้า โดยใช้เครือข่ายของธุรกิจต่าง ๆ ของเอสซีจีที่มีอยู่ทั่วโลก

4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียน โดยสลับฐานการผลิตและส่งออกจากประเทศที่มีอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่ำกว่า ฐานการผลิตที่หลากหลายซึ่งเป็นจุดแข็งของเอสซีจีจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงทีเช่น บรรจุภัณฑ์ของเอสซีจีพีที่มีฐานการผลิตและส่งออกได้จากทั้งไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ และกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน สามารถผลิตและส่งออกได้จากทั้งไทยและเวียดนาม

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

อย่างไรก็ตาม แม้สงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนและอุปสงค์เคมีภัณฑ์ชะลอตัวแต่ เอสซีจีซีคาดว่าจะได้รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเคมีภัณฑ์ลดลง เอสซีจีซี จึงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการเชิงรุกได้แก่

1.) ลดต้นทุนบริหารอย่างต่อเนื่อง

2.) เพิ่มความยืดหยุ่นของซัพพลายเชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์รวมทั้งเตรียมความพร้อมของโครงการลองเซินปิโตรเคมิคอลส์ที่ประเทศเวียดนาม(LSP)ให้กลับมาเดินเครื่องได้เมื่อสถานการณ์เหมาะสม

3.) เร่งพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง พร้อมขยายธุรกิจสินค้ากรีนและดิจิทัล โซลูชัน เช่น DRS by Repco NEX

\"เอสซีจี\" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก\"4กลยุทธ์\"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

นายธรรมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เอสซีจีเล็งเห็นถึงความท้าทายที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจฐานราก และได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์สงครามการค้าโลก จึงพร้อมเปิดบ้านสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ถ่ายทอดความรู้ เสริมศักยภาพ และช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ ผ่านโครงการ ‘Go Together’ ที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และจะครบเป้าหมายเฟสแรก 1,200 คนในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมถึงโครงการ ‘NZAP’ ที่มีผู้เข้าร่วมแล้ว 106 ราย ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันนี้ เราจะสามารถก้าวข้ามความท้าทายครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”
 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ตะลึง กู้ภัยล้มฟุบตะโกนช่วยด้วย กลางพิธีโต๊ะจีนเหยื่อตึกถล่ม

ตะลึง กู้ภัยล้มฟุบตะโกนช่วยด้วย กลางพิธีโต๊ะจีนเหยื่อตึกถล่ม

เหยื่อปูนตกใส่รถดับ ถนนพระราม 2 ญาติสงสัย รพ.ส่อให้เลือดผิดกรุ๊ป

เหยื่อปูนตกใส่รถดับ ถนนพระราม 2 ญาติสงสัย รพ.ส่อให้เลือดผิดกรุ๊ป

เปิดนาที กู้ภัยถูกวิญญาณในตึก สตง.สิงร่าง ร้องหิวขอข้าวน่าเวทนา

เปิดนาที กู้ภัยถูกวิญญาณในตึก สตง.สิงร่าง ร้องหิวขอข้าวน่าเวทนา

ดาวใหญ่ย้าย เปิดดวง 12 ราศี ชีวิตพลิก เงินทองมีใช้ไม่เดือดร้อน

ดาวใหญ่ย้าย เปิดดวง 12 ราศี ชีวิตพลิก เงินทองมีใช้ไม่เดือดร้อน

"เอสซีจี" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68  รุก"4กลยุทธ์"สู้ศึกสงครามการค้าโลก

"เอสซีจี" แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68 รุก"4กลยุทธ์"สู้ศึกสงครามการค้าโลก