ใจสลาย จัดงานแต่งคู่งานศพ สานฝันเจ้าบ่าว หลังจากไปกะทันหัน

เรื่องราวบีบหัวใจที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล เมื่อมีการจัดพิธีแต่งงานภายในงานศพ เพื่อเติมเต็มความฝันของเจ้าบ่าวที่จากไปก่อนถึงวันวิวาห์ บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยทั้งความสุขและความโศกเศร้า ที่หลอมรวมเป็นความรักและความอาลัย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านวังผือ ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยมีการจัดงานแต่งให้กับนายชานนท์ อายุ 33 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ ครูเดียวดาย ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่รักของครอบครัวและคนในหมู่บ้าน เนื่องจากเคยทำงานเป็นครูและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

• ด้านพี่ชายและพี่สาวของครูเดียวดาย เปิดเผยว่า เดิมทีน้องชายจะจัดงานฉลองมงคลสมรสในช่วงปลายปี 2568 หลังจากที่ได้จัดพิธีหมั้นไปเมื่อวันที่ 5 มกราคม แต่กลับมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนวันแต่งงาน เมื่อครอบครัวทราบถึงความตั้งใจของน้องชายที่อยากแต่งงานมาก จึงตกลงกันจัดงานแต่งงานในวันเดียวกับงานศพ เพื่อให้ครูเดียวดายได้สมหวังในความฝัน

ในช่วงที่ยังมีชีวิต ครูเดียวดายเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี ทำงานหลายหน้าที่ทั้งเป็นครูและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาล มีลูกศิษย์และเพื่อนร่วมงานมากมาย โดยที่ชาวบ้านรักและเคารพเขาเป็นอย่างดี ด้วยความที่เขามีจิตอาสาและเป็นคนที่ชอบเฮฮา แม้ว่าช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ครูเดียวดายจะโอนเงินให้แฟนสาวจำนวน 60,000 บาท เพื่อให้ไปซื้อทองใส่ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งทำให้เจ้าสาวถึงกับหลั่งน้ำตาและบอกกับครูเดียวดายผ่านรูปหน้าโลงศพว่า คงจะได้ซื้อทองให้ลูกจริงๆ

 ลางบอกเหตุสุดสะเทือนใจ ครูเดียวดายเคยบอกอยากจัดงานแต่งที่บ้านเจ้าสาวใกล้วัด ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน

ในช่วงที่ครูเดียวดายไปร่วมงานแต่งของคนอื่น เขามักพูดเสมอว่า เขาจะจัดงานแต่งในปลายปีนี้ และเคยบอกกับออแกไนซ์ว่าอยากจัดงานที่บ้านเจ้าสาวใกล้ๆ วัด พร้อมทั้งให้พิธีจัดที่วัดข้างเมรุ แต่ไม่มีใครคิดว่าจะกลายเป็นความจริง โดยศพของครูเดียวดายถูกเคลื่อนย้ายไปฌาปนสถาน เมรุวัดเลียบโพธิ์ทอง บ้านวังผือ ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว  ในงานศพได้มีการเปิดเพลงพื้นบ้านที่ครูเดียวดายเคยแต่งและบรรเลงร่วมกับเพื่อน โดยเพลงดังกล่าวเป็นทำนองที่ครูเดียวดายได้เป่าโหวตในช่วงทำวิทยานิพนธ์ก่อนจบการศึกษา คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ขอบคุณภาพจาก Nut Nattaphon และ ชานนท์ ใสจูง