ข่าว

heading-ข่าว

ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

13 ก.พ. 2568 | 17:38 น.
ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

ไทยเครดิตเผยแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อในระดับสองหลัก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง เป็นเลิศด้านการดำเนินงาน พร้อมเป็นธนาคารที่ทุกคนเข้าถึงได้ สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

ไทยเครดิต เผยแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานและเป้าหมายทางธุรกิจปี 2568 เดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ เร่งผลักดันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน  หลังประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 ด้วยผลกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท ยืนยันความเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

กรุงเทพฯ, 13 กุมภาพันธ์ 2568 - ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) (CREDIT) ได้มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ประจำปี 2567 พร้อมประกาศแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าธุรกิจในการเติบโตที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT กล่าวว่าธนาคารมุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายย่อยและกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อที่อยู่ในระบบ โดยธนาคารมุ่งเน้นไปที่การบริหารคุณภาพของสินเชื่อที่ดี รอบคอบ รัดกุม รวมถึงความเป็นเลิศในการดำเนินการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจเกินความคาดหมาย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งมอบคุณค่าที่แท้จริง เน้นการยึดหลักมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

 

มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของลูกค้าบนสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าเพื่อให้ธนาคารสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าอย่างราบรื่นและเติบโตได้ต่อไปในอนาคต

ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT เปิดเผยว่าธนาคารไทยเครดิตกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลระยะที่ 2 (Digital Transformation) กล่าวคือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเปิดตัวระบบคอร์แบงกิ้งใหม่ของธนาคาร (New Digital Core Banking System) โดยถือเป็นการยกระดับระบบและแพลตฟอร์มของธนาคารให้สมบูรณ์แบบ ตอบสนองต่อกระแสดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานของระบบให้แข็งแกร่ง เพื่อรักษาความสามารถในการเติบโตในระยะยาว พร้อมพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ


 

โดยได้ธนาคารได้มีการกําหนดเป้าหมายสำคัญทางการเงินสําหรับปี 2568 ดังนี้

ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

• ด้านการเติบโตของการให้สินเชื่อ (Loan Growth) ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการเติบโตสินเชื่อหลักที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (MSME) สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน และสินเชื่อบุคคล อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบ  พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อในปี 2568 ในระดับเลขสองหลัก


• ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในช่วง 8.5-9.0% ควบคู่ไปกับการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ พร้อมรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า

ไทยเครดิต ตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์


• ด้านเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL) ที่ให้อยู่ในระดับที่น้อยกว่า 4.5%

ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารใช้ขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย 2 ด้านหลัก ได้แก่

1) การขยายสินเชื่อในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นจุดแข็งของธนาคาร

2) การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

อีกทั้ง เพื่อยกระดับการเข้าถึงธนาคารที้สะดวกยิ่งขึ้น ธนาคารได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินอย่างชาญฉลาดและสร้างเสริมอนาคตทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผ่านแอปพลิเคชัน alpha by Thai Credit ที่ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกทุกที่ทุกเวลา

 

โดยในปี 2567 มีผู้ใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากปีก่อน เป็นประมาณ 19,000 ล้านบาท ในปี 2567 ด้านการเติบโตของ “ไมโครเพย์ อี-วอลเล็ต” แอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการทางการเงินของกลุ่มลูกค้านาโนและไมโครเครดิต มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อน เป็นประมาณ 26.1 ล้านบาท พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแรงในการเข้าถึงฐานลูกค้าของธนาคาร รวมถึงสามารถขับเคลื่อนกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธนาคารได้มีแผนรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

ธนาคารไทยเครดิตเดินหน้ายกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้ยังเน้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนกระบวนการให้บริการ ตลอดจนการให้ความรู้ พัฒนา และเสริมทักษะทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ร้านขายของชำ รวมทั้งกลุ่มเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี เพื่อใช้ในการวางแผนทางการเงินเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปรัชญา “Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ” ที่มุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ที่มีความเท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ระทึก แผ่นดินไหว 7.4 เขย่าอาร์เจนตินา เตือนสึนามิเร่งอพยพ

ระทึก แผ่นดินไหว 7.4 เขย่าอาร์เจนตินา เตือนสึนามิเร่งอพยพ

รักเริ่มจากวงไพ่ ภรรยาผกก. เล่าจุดเริ่มต้นความรัก แปลกไม่มีใครเหมือน

รักเริ่มจากวงไพ่ ภรรยาผกก. เล่าจุดเริ่มต้นความรัก แปลกไม่มีใครเหมือน

มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จ.ราชบุรี ภายใต้โครงการ เปิดเทอม เติมพลัง

มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จ.ราชบุรี ภายใต้โครงการ เปิดเทอม เติมพลัง

รวบแล้ว มือปาหินจากสะพานลอยใส่รถสาว กลางถนนบางนา-ตราด

รวบแล้ว มือปาหินจากสะพานลอยใส่รถสาว กลางถนนบางนา-ตราด

กระทรวงการคลัง จัดงานใหญ่ "MOF JOURNEY : 150 ปี เส้นทางการคลังไทย"

กระทรวงการคลัง จัดงานใหญ่ "MOF JOURNEY : 150 ปี เส้นทางการคลังไทย"