DITP ดันสินค้าไทย บุกตลาดออนไลน์ต่างประเทศ ผ่าน TOPTHAI สร้างมูลค่า 600 ล้าน

DITP เดินหน้าเชิงรุกดันสินค้าไทยกว่า 2,500 แบรนด์ บุกตลาดออนไลน์ต่างประเทศ ผ่านร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์มชั้นทั่วโลกสร้างมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้าเชิงรุกส่งเสริมผู้ประกอบการไทยร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก ดันแบรนด์ไทยขยายตลาดต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำไปแล้วกว่า 2,500 แบรนด์ สร้างมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาทผ่านกิจกรรมต่าง ๆภายใต้โครงการ TOPTHAI เร่งส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการSMEs ไทย นำสินค้าไทยบุกเจาะตลาดออนไลน์ศักยภาพในต่างประเทศ พร้อมตั้งเป้าขยาย
ความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำให้ครอบคลุมอีกหลายภูมิภาคในปี 2568
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าในปี 2567 กรมฯ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการ TOPTHAI เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ความรู้ผู้ประกอบการร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำรวมกว่า 10 ครั้งทั้งในกรุงเทพและส่วนภูมิภาค โดยแบ่งเป็นกิจกรรมCrossBorderE-Commerceขายสนุกบุกตลาดโลกที่ครอบคลุม 3 จังหวัดเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ เชียงใหม่ขอนแก่น และสงขลารวมทั้ง กิจกรรมสัมมนาออนไลน์ให้ผู้ประกอบการในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงได้นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้จัดกิจกรรม DITP x…..: Next Step to Global
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะต่อยอดให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเปิดหน้าร้านกับแพลตฟอร์มออนไลน์พันธมิตรชั้นนำของกรมฯ ผ่านการจัดสัมมนาให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ร่วมกับ 6 แพลตฟอร์มชั้นนำ ได้แก่Amazon JD.com Lazada Tmall และ Shopee
และงาน TOPTHAI Cross Border E-Commerce Day 2024 กิจกรรมใหญ่ที่รวบรวมแพลตฟอร์มชั้นนำและหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ ทั้งในด้านการเงินและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศรวมกว่า 30 บริษัท มาให้คำปรึกษาและจับคู่เจรจาจับคู่ธุรกิจเพื่อคัดเลือกสินค้าไทยวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม
นายภูสิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าในปีนี้ กรมฯ ได้มีการยกระดับความร่วมมืออย่างเป็นทางการผ่านการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU)เพื่อผลักดันสินค้าไทยให้สามารถขยายตลาดส่งออกผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำใน 3 ประเทศสำคัญ ได้แก่ แพลตฟอร์ม Rakuten (ญี่ปุ่น) Amzon.com (สหรัฐฯ) และ LetsTango (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
และตั้งเป้าขยายความร่วมมือกับแพลตฟอร์มศักยภาพชั้นนำ อาทิ Pinkoi(ไต้หวัน/ ฮ่องกง/ ญี่ปุ่น) และ JD.com (จีน) รวมถึงตลาดศักยภาพอื่นให้เพิ่มมากขึ้น ในปี 2568นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับแพลตฟอร์มพันธมิตรในการวางแผนกลยุทธ์ จัดแคมเปญประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายสินค้าบนร้าน TOPTHAI
ในประเทศเป้าหมายร่วมกับAmazon (สหรัฐฯ) Tmall (จีน)Klangthai (กัมพูชา) Shopee (มาเลเซีย) Blibli.com (อินโดนีเซีย) Rakuten (ญี่ปุ่น)และPinkoi(ไต้หวัน)
รวมทั้งจัดกิจกรรมออกคูหาประชาสัมพันธ์ร้าน TOPTHAI และสินค้าไทยในรูปแบบ TOPTHAI Pavilion และ Pop-up Storeร่วมกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบ Offline to Online ภายในงานสำคัญต่างๆ ของกรมฯ ได้แก่งาน The4thChina (Xiamen) International Cross-Border E-Commerce Expo (ICEIE) ณ เมืองเซี่ยเหมินประเทศจีนงานIgnite Thailand Festival : ThinkThailand, Next Levelณ Time Square นครนิวยอร์กประเทศสหรัฐฯ งาน BCG Thai Festive Fair 2024 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
และงานแสดงสินค้า CAEXPO 2024 ณ เมืองหนานหนิง ประเทศจีน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคในประเทศเป้าหมายต่อสินค้าในร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นปัจจุบันกรมฯ ได้ดำเนินการโครงการร้าน TOPTHAI เข้าสู่ปีที่ 4 สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการTOPTHAI ผ่านแพลตฟอร์มพันธมิตรแล้วกว่า 2,500 แบรนด์มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 600 ล้านบาท
และในปี 2568 นี้ กรมฯ มีแผนผลักดันผู้ประกอบการให้สามารถขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยไปประเทศเป้าหมายผ่านร้าน TOPTHAI ให้เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 แบรนด์ พร้อมตั้งเป้าดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นเป็น 165 ล้านบาทต่อปี เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลในการ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ให้กับผู้ประกอบการไทยต่อไป

ไม่มีกั๊ก "ฮาย อาภาพร" เปิดเลขมงคล แบ่งโชคแฟนๆ หลวงพ่อเขียนให้เอง

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรอัตราใหม่ ของผู้ประกันตน ม.33 และ 39

นักข่าวสาวเสียชีวิต ศพเพิ่งถูกส่งให้ครอบครัว เปิดดูถึงตกใจสภาพ

เจ้าของร้านหมูกระทะ ชี้แจงแล้ว หลังเจอดราม่าปรับเศษหมู ที่ลูกค้ากินเหลือ
