ลือสนั่น "แซน วิศาพัช" ขึ้นเป็นจำเลยที่ 1 แม่แตงโม เปิดหลักฐานใหม่

02 มีนาคม 2566

ลือสนั่น "แซน วิศาพัช" ขึ้นเป็นจำเลยที่ 1 คดีแตงโม หลังมีจำเลย 2 คนรับสารภาพ แม่แตงโม เปิดหลักฐานใหม่ เป็นพยานวัตถุสำคัญทางคดี

ผ่านมา 1 ปีแล้ว สำหรับการจากไปของนักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ล่าสุดวันนี้ 2 มี.ค. 66 นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายและทีมทนายความ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำพยานวัตถุที่ตรวจพบเป็นหลักฐานใหม่ เป็นพยานวัตถุสำคัญทางคดี คือกล้องบันทึกภาพหน้ารถ และอุปกรณ์หน่วยบันทึกความจำ (memory card) ที่ติดตั้งไว้ในรถยี่ห้อ mazda สีดำ ทะเบียน ผว 13 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ (แตงโม)

ลือสนั่น แซน วิศาพัช ขึ้นเป็นจำเลยที่ 1 แม่แตงโม เปิดหลักฐานใหม่

ซึ่งทาง แม่แตงโม นำพยานวัตถุสำคัญหลักฐานใหม่นี้พร้อมรายละเอียดที่ได้จากการกู้ข้อมูลจากบริษัทผู้กู้ข้อมูลชื่อดังและเชี่ยวชาญระดับประเทศ ผลสรุปจากการกู้ข้อมูลจากหน่วยความจำของกล้องบันทึกภาพด้วยเทคโนโถยีชั้นสูงปรากฎว่า มีผู้ไม่ประสงค์ดีบางคนได้ทำการลบล้างข้อมูลบางส่วนออกจากหน่วยความจำ ของเหตุการณ์ในวันที่ 24 ก.พ. 65

ลือสนั่น แซน วิศาพัช ขึ้นเป็นจำเลยที่ 1 แม่แตงโม เปิดหลักฐานใหม่

 

และในวันเดียวกันนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า มีจำเลย 2 คน รับสารภาพทุกข้อหาและต้องเข้าฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 พ.ค. 66 ส่วนจำเลยที่เหลือปฏิเสธทุกข้อหาต้องแยกฟ้อง นัดไต่สวนใหม่วันที่ 28 เม.ย. 66 ซึ่งจำเลยที่ 1 คือ "ปอ ตนุภัทร" และจำเลยที่ 2 คือ "โรเบิร์ต นายไพบูลย์" หลังทั้งคู่รับสารภาพทำให้ "แซน วิศาพัช" ขึ้นมาเป็นจำเลยที่ 1 แทน

ทั้งนี้ แซน วิศาพัช เผยว่า จะฟ้องแม่แตงโมคืน เป็นจำนวนเงิน 40 ล้าน 8 แสนบาท ที่แม่มากล่าวหาว่า แซนคือฆาตกร ซึ่งแม่บอกว่าตกใจมาก ตอนอยู่ในศาล ยังกอดกันอยู่เลย

ลือสนั่น แซน วิศาพัช ขึ้นเป็นจำเลยที่ 1 แม่แตงโม เปิดหลักฐานใหม่

ทั้งนี้ นายปอ ตนุภัทร ถูกอัยการยื่นฟ้องในความผิดรวมกัน 6 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตร รับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและภาษาอังกฤษที่หัวเรือ และแจ้งความเท็จ

ส่วนนายไพบูลย์ โรเบิร์ต ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือ กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ และทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำ ซึ่งเป็นข้อหาเก่าตั้งแต่ตอนแรก