ไทย Vs มาเลเซีย สู้กันเดือด ไทยพลาดท่า ลุ้นแก้ตัวนัด 2 ในบ้าน
ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย สู้กันเดือด ไทยบุกอย่างหนักก่อนพลาดท่า ลุ้นแก้ตัวนัด 2 เปิดบ้านต้อนรับเสือเหลือง มาเลเซียอีกหน
จบไปแล้วการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน คัพ 2022 รายการ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ 2022 (AFF Mitsubishi Electric Cup 2022) รอบรองชนะเลิศ ประจำวันที่ 7 มกราคม 2566 ณ สนามบูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย เริ่มทำการแข่งขันเวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย
มาโน โพลกิง โค้ชใหญ่ช้างศึก ไม่ประมาทแน่นอน จัด 11 ตัวจริง ประกอบไปด้วย กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก (GK) , ศุภนันท์ บุรีรัตน์ , พรรษา เหมวิบูลย์ (จักรพันธ์ ไพรสุวรรณ น.68) , กฤษดา กาแมน , ศศลักษณ์ ไหประโคน , บดินทร์ ผาลา (เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ น.87) , สารัช อยู่เย็น , ธีราทร บุญมาทัน , เอกนิษฐ์ ปัญญา (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว น.86) , พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (อดิศักดิ์ ไกรษร น.68) และ ธีรศิลป์ แดงดา (ปรเมศย์ อาจวิไล น.81) ด้วยระบบ 4-1-3-2 ในชุดสีแดง
ขณะเดียวกัน คิม พัน กอน กุนซือชาวเกาหลีใต้ของทีมชาติมาเลเซีย จัดหนักจัดเต็มเช่นเดียวกันด้วยการจัด 11 ตัวจริง ประกอบไปด้วย ชีฮัน ฮัซมี (GK) , เควนติน เจิ้ง (เนอร์ ชามี น.69) , ชารุล นาซีม (โมฮาหมัด ฟาซลี่ บิน มาซลัน น.87) , โดมินิก ถัน , รูเวินตีรัน เวินกาเดซัน , เบรนดัน กาน , สจวต วิลกิ้น , ลี แอนดรูว์ ทัค , ดาร์เรน โลค (เอซเซควิล อะกูเอโร น.69) , เฟซอล ฮาลิม (เดวิด โรว์ลีย์ น.81) และ ซาฟาวี ราซิด ( มูฮัมหมัด ฮาคิมี อาซิม บิน โรสลี น.) จัดเต็มด้วยระบบ 4-2-3-1 ในชุดสีเหลือง
ครึ่งแรก
เริ่มเกมได้ 3 นาที ทีมชาติไทยได้ทักทายก่อนจากลูกเปิดของ ธีรศิลป์ แดงดา โยนย้อยๆ มาเข้าศีรษะของ เอกนิษฐ์ ปัญญา แต่บอลยังโด่งเลยประตูไป จังหวะต่อเนื่องที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา มีโอกาสเปิดเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ แต่โหม่งกดพื้นไปหน่อย หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
หลังจากพลัดกันบุกได้ 11 นาที กลายเป็น มาเลเซีย ที่ได้โอกาสทำประตูขึ้นนำก่อน จากการบุกทางกาบซ้าย ชารุล นาซีม บอลโยนโด่งจากแดนหลังมาเข้าทาง รูเวินตีรัน เวินกาเดซัน โหม่งตั้งให้กับ เฟซอล ฮาลิม จิ้มตามน้ำ ผ่านมือ กิตติพงศ์ ภูแถว เข้าประตูไป เจ้าบ้านนำ 1 - 0
นาทีที่ 21 ทีมชาติไทยบุกอย่างหนัก ก่อนที่ สารัช อยู่เย็น จะมีโอกาสส่งให้ ธีรศิลป์ แดงดา ซัดเต็มข้อ แต่ก็ยังไม่ผ่านบล็อกหลังบ้านของ มาเลเซีย แม้ ช้างศึก จะได้บุกหนัก และมีจังหวะยิงหลายครั้ง แต่สุดท้ายบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย แต่เป็นสัญญาณที่ดีว่า ทีมชาติไทยสามารถเจาะแนวรับมาเลเซียได้อย่างต่อเนื่อง
5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีมชาติไทยยังพับสนามบุกอย่างดุเดือด หลังทวงประตูคืนก่อนจบครึ่งแรก แต่ก็มีจังหวะที่โดนสวนกลับมากบ้าง ยังดีที่ตอนนี้ แนวรับของทีมชาติไทยกลับมาเหนียวแน่น ผลัดกันซ้อนและบล็อคอย่างได้ผล จบเกมครึ่งแรก มาเลเซียนำไทย 1 - 0
ครึ่งหลัง
ทีมชาติไทยยังคงบุกอย่างหนัก จนมีโอกาสได้ลูกตีเสมอตั้งแต่นาทีแรก จากลูกโหม่งของ สะบัดชนเสาไกล ไปเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา แต่ เจ้ามุ้ย ปั่นไม่ถนัดทำให้บอลไม่เข้ากรอบอย่างที่ตั้งใจ ประตูตีเสมอของทีมชาติไทยยังไม่มา
รูปเกมเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งในนาทีที่ 54 มาเลเซียเกือบจะได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่บอลบุกของ เสือเหลืองโยนมายังกรอบเขตโทษทีมชาติไทย และเป็น ดาเรน โลค กระโดดขึ้นพยายามโหม่ง บอลย้อยเข้าประตู ทว่ามีจังหวะที่เกิดการฟาวล์กันเสียก่อนสกอรืยังเป็น 1 - 0 ท่ามกลางทีมสต๊าฟของ มาเลย์เซีย ที่พยายามกรูหากรรมการเนื่องจากโดนริบประตูคืน
10 นาทีสุดท้าย ไทยยังบุกไม่ลดละ อีกทั้งยังมีโอกาสทำประตูได้ แต่เหมือนโชคยังไม่เข้าข้าง ไม่อาจะส่งบอลตุงตาข่ายมาเลเซียได้ ต่อมานาทีที่ 82 บดินทร์ ผาลา โดน เนอร์ ชามี เสียบจนล้มลงไปในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินที่หนึ่งชาวเกาหลีใต้ยืนยิ่ง บอกไม่เป็นจุดโทษ
ช่วงทดเวลา 5 นาที ขุนพลช้างศึกที่ มาโน โพลกิง เทหมดหน้าตัก จัดว่าพับสนามบุก แต่ มาเลเซียก็ซื้อเกมรับเช่นกันในนาทีที่เหลือ ซึ่ง ทีมชาติไทยก็มีจังหวะที่ได้ป้วนเปี้ยนหน้าประตูมาเลเซียหลายครั้ง ทว่ายังเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูไม่ได้ กระทั่งผู้ตัดสิน คิม แด ยอง จากเหกาหลีใต้ เป่าจบเกมในที่สุด ผลบอลไทยล่าสุด ทีมชาติไทย 0 - 1 ทีมชาติมาเลเซีย
ทั้งนี้ เส้นทางการแข่งขันยังไม่จบเพียงเท่านี้ เนื่องจาก ทีมชาติไทยต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เสือเหลือง มาเลเซียอีกหน เพื่อตัดสินชี้ชนะเข้ารอบชิงในวันที่ 10 มกราคม 2566 ไทย พบ มาเลเซีย ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD30 และ T-Sports 7 และเพจกองสลากพลัส
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews