"เงินสงเคราะห์บุตร"ล่าสุด จ่ายเงินเพิ่มเป็น 800บาท เช็คเงื่อนไขรับสิทธิ์

15 ธันวาคม 2565

เงินสงเคราะห์บุตร จ่ายเงินเพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม สำหรับเด็กแรกเกิดไปจบครบ 6 ปีบริบูรณ์ เช็คเลยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขรับสิทธิ์

   "เงินสงเคราะห์บุตร"จ่ายเงินเพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท สำหรับเด็กแรกเกิดไปจบครบ 6 ปีบริบูรณ์ โดยทาง น.ส.ทิพานัน  ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้อัปเดต"เงินสงเคราะห์บุตร"ล่าสุด เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ มีความห่วงใยคุณแม่ผู้ใช้สิทธิประกันสังคม เมื่อคลอดบุตรแล้วอย่าพลาดใช้สิทธิในการรับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 800  บาท จากประกันสังคมต่อบุตร 1 คน  ตั้งแต่แรกเกิดไปจบครบ 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนไม่เกิน 3 คน

 

   ซึ่งเงินสงเคราะห์บุตรเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 800 บาท ตามประกาศกฎกระทรวงแรงงาน เรื่องการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 มาแล้ว 


    ทั้งนี้การเพิ่มจำนวนเงินดังกล่าว เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของแม่ที่เป็นผู้ประกันตน และภาคแรงงาน ให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติต่อไป 


  เปิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับสิทธิ์ เงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคมเดือนละ 800 บาท

-ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้างประจำ) เเละ ผู้ประกันตน ม.39 (ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ) และมาตรา 40 (ทางเลือกที่ 3)

"เงินสงเคราะห์บุตร"ล่าสุด จ่ายเงินเพิ่มเป็น 800บาท เช็คเงื่อนไขรับสิทธิ์

-จ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน จ่ายประกันสังคมมามากกว่า 12 เดือนแล้ว ภายในเวลา 36 เดือน 

 

-ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น

-อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน

"เงินสงเคราะห์บุตร"ล่าสุด จ่ายเงินเพิ่มเป็น 800บาท เช็คเงื่อนไขรับสิทธิ์


การหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร 

-เมื่อบุตรอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์

-บุตรเสียชีวิต

-ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น

-ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง     

 

  ทั้งนี้คุณแม่ผู้ประกันตนสามารถยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน 1506 และ www.sso.go.th

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews