ว่อนข่าว พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ล่าสุด กรมอุตุฯ ชี้แจงแล้ว

09 ธันวาคม 2565

ว่อนข่าวลือ พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ความเร็วลม 160 กม.ต่อชม. กระทบทั้ง 4 ภาค ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงแล้ว

ตามที่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ความเร็วลม 160 กม.ต่อชม. กระทบทั้ง 4 ภาค ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ว่อนข่าว พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ล่าสุด กรมอุตุฯ ชี้แจงแล้ว

จากกรณีที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลว่าพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ความเร็วลม 160 กม.ต่อชม. กระทบทั้ง 4 ภาค ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีแหล่งที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งยืนยันว่าไม่มีพายุไต้ฝุ่นแต่อย่างใด และหากมีพายุเกิดขึ้นโดยมีผลกระทบต่อประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน

 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

 

ว่อนข่าว พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่เตรียมเข้าไทย ล่าสุด กรมอุตุฯ ชี้แจงแล้ว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อมิให้เกิดความสับสน และตื่นตระหนกขึ้นในสังคม หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th โทรสายด่วน 1182

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีแหล่งที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งยืนยันว่าไม่มีพายุไต้ฝุ่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews