ออมสิน-กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อเงินด่วน 10,000 ผ่านไลน์ ล่าสุดชี้แจงแล้ว

22 ตุลาคม 2565

ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ร่วมกับบริษัทเอกชนปล่อยสินเชื่อเงินด่วนผ่านไลน์ ล่าสุดทั้ง 2 ธนาคารชี้แจงแล้ว

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินในสื่อสังคมออนไลน์เรื่อง ออมสินและกรุงไทยร่วมกับบริษัทเอกชนปล่อยสินเชื่อเงินด่วนผ่านไลน์ ล่าสุดทาง Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

ออมสิน-กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อเงินด่วน 10,000 ผ่านไลน์ ล่าสุดชี้แจงแล้ว

กรณีที่มีการเผยแพร่รูปภาพในสื่อเฟซบุ๊กเกี่ยวกับออมสินและกรุงไทยร่วมกับบริษัทเอกชนปล่อยสินเชื่อเงินด่วนผ่านไลน์ ทางธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าธนาคารไม่มีบริการให้สินเชื่อเงินกู้ร่วมกับบริษัทเอกชนปล่อยสินเชื่อเงินด่วนผ่านไลน์ ตามที่โซเชียลนำโลโก้มาแสดง และธนาคารไม่มีนโยบายให้บริการสินเชื่อเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ การปรากฏโลโก้ของทั้ง 2 ธนาคาร เป็นการแอบอ้างนำตราสัญลักษณ์ของธนาคารทั้ง 2 แห่ง ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


ทั้งนี้ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าธนาคารทั้ง 2 แห่ง เข้าร่วมสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าวซึ่งไม่เป็นความจริง การกระทำดังกล่าวกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์อันดีของธนาคาร และธนาคารจะได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ธนาคารขอยืนยันว่าธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของสื่อโซเชียลดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น

 

ออมสิน-กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อเงินด่วน 10,000 ผ่านไลน์ ล่าสุดชี้แจงแล้ว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากธนาคารออมสิน กระทรวงการคลังได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th เฟซบุ๊ก GSB society หรือโทร 1115


บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการแอบอ้างที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน


หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews