จากกรณีที่ "แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ" โพสต์ฟาด "ทนายขยะ"ก่อนผุดแฮชแท็ก กล้าฟ้องหรือเปล่า จนช่วงบ่ายวันที่ 27 เม.ย. "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ได้ขึ้น สน. รัตนาธิเบศร์ฟ้องตามคำท้า ล่าสุดแต๊งค์ได้ออกมาเคลียร์ในรายการคุยทะลุดราม่า โดยเผชิญหน้า "ทนายเดชา" ผ่านวิดีโอคอลผ่านรายการ งานนี้เดชาถึงขั้นประกาศไม่ขอคุยด้วย โดยมี "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร" ร่วมรายการอีกคน
แต๊งค์ : โพสต์เพราะรู้สึกไม่พอใจ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าใคร พูดโดยรวม ใครอยากรับก็รับไป จริงๆ แล้วมีหลายคนที่เข้ามา และคำว่าหิวแสงถูกใช้กับคนหลายคนเลย คำนี้ผมว่าไม่เหมาะเลยที่ถูกนำมาใช้ในคดีนี้ ทุกคนควรมีส่วนร่วมพิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่ควรปรักปรำว่าใครหิวแสงหรือไม่หิวแสง บางคนที่เขาเป็นตัวแทนประชาชน ทำงานอิสระ ควรได้เข้ามาทำให้คดีโปร่งใส ให้กระบวนการยุติธรรมพัฒนามากขึ้นในอนาคต ถ้ากระทบใครอยากจะรับก็รับไป ผมไม่ได้เจาะจงว่าใครนี่ครับ
ถามว่ากลัวโดนฟ้องไหม ผมก็ต้องปกป้องตัวเองไว้นิดนึง ถามว่ากลัวไหมก็ไม่กลัว เราสุจริตใจการแสดงความคิดเห็น เราหวังดีต่อรูปคดี ต่อระบบกระทรวงยุติธรรมของประเทศอยู่แล้ว
ส่วนคุณแม่ จริงๆ ตอนนี้คนรอบตัวคุณแม่ก็เยอะอยู่ แต่โดยส่วนตัวที่รู้จักคุณแม่มานาน ให้ความเคารพคุณแม่ในฐานะคุณแม่แตงโม เชื่อว่าถ้าวันนี้แตงโมอยู่ก็คงไม่อยากให้ใครไปว่าแม่เขา คุณแม่อาจต้องหันมาสนใจความคิดเห็นและมองดูความเห็นของคนโดยรวมให้มากกว่านี้ จะได้ศึกษาว่าการตอบคำถามกับสื่อกับสังคมเป็นยังไง ตอนนี้คุณแม่หลงประเด็นอยู่ เหมือนไม่ค่อยมีใครให้คำปรึกษาแก หลังจากคดีนี้จบ แม่ต้องอยู่ในสังคมอีกนาน ถ้าคนไปตราหน้าคุณแม่ว่าเป็นคนไม่ดี แล้วจะมาไล่ฟ้องทุกคน มันไม่ได้ ถ้าอยากมีพื้นที่ยืนในสังคมได้ ต้องแสดงออกให้สังคมยอมรับได้ อย่าลืมว่าแตงโมเป็นคนที่คนในสังคมรัก จะมาตีกรอบว่าแม่เป็นผู้สูญเสียคนเดียว แบบนี้ไม่ถูก ทุกคนรู้สึกสูญเสียในคดีนี้ คนที่รักแตงโม ในเรื่องกฎหมายคุณแม่อาจไม่ได้ผิดอะไร ไหนๆ ที่ปรึกษาอยู่ใกล้ตัวเขาแล้ว ก็อยากให้คำปรึกษาให้คุณแม่ระวัง รักษาอาการ การพูดบางอย่าง ตอนนี้สื่อไปเร็วมาก
เดชาอัดสื่อต้องมีจรรยาบรรณ นำคำพูดแม๊พูดทีเล่นทีจริงมาพาดให้เสียหาย
เดชา : เรื่องเรียกเพิ่ม คุณแม่ก็พูดทีเล่นทีจริงเฉยๆ เพราะมีคนถามเรื่องคุณเบิร์ด คุณแม่ก็โมโห บอกว่าต้องเรียกค่าเสียหายให้มากขึ้น ไม่มีอะไร ถ้าดูคำพูดทั้งหมดจะรู้ว่าเจตนารมณ์คุณแม่คืออะไร สื่อมวลชนต้องให้ความเป็นธรรม ต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ใช่เอาคำพูดเดียวมาพาดแล้วทำให้คุณแม่เสียหาย
-"เจ้าของอู่เรือ" เผยความสัมพันธ์ที่แท้จริง "คนแกะ GPS" หลังหลุดภาพใกล้ชิด
-พล.ต.ต.วิชัย ชี้จุดบอดตร. หลังสรุปสำนวนคดี "แตงโม" ทำสงสัยประเทศ
-"หมอพรทิพย์" เปิดใจล่าสุด คดีแตงโมยังไม่จบ เดี๋ยวจะออกมาพูดทั้งหมด
ไม่ขอออกความเห็นเรื่องโพสต์ของแต๊งค์ แพ้ทางโซเชียล ก็เลือกใช้บริการศาล
เดชา : ผมไม่ขอให้ความเห็น บ่ายสองนัดพนักงานสอบสวนดำเนินคดีไว้แล้ว ดำเนินคดีตามความผิดที่ปรากฏ ผมอาจแพ้ทางโซเชียลก็ไปเลือกใช้บริการตร. และบริการศาล คนละเวทีไป ส่วนฟ้องเพราะโพสต์ทนายขยะไหม ไม่ขอตอบ ถามว่าทำไมข้ามคืนถึงเปลี่ยนใจฟ้อง จริงๆ แจ้งทุกวัน วันนี้เอา 2 รายก่อน คนที่นั่งอยู่ในรายการคนนึง นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็จัดสองคนก่อน
แต๊งค์ทักทาย แต่ทนายเดชาไม่คุยด้วย
แต๊งค์ : สวัสดีครับ
เดชา : ผมไม่คุยด้วยครับ ไม่มีอะไรต้องคุยกันครับ ไม่เป็นไรครับ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพก็ใช้กันไป
แต๊งค์ : ก็จริง
เดชา : ไม่ต้องคุยกันหรอกครับ (ปอเปี๊ยะถามว่าทำไมดูโกรธ?) จะมาบังคับอะไรผม พิธีกรก็อย่าลืมเรื่องจรรยาบรรณนะ จะมาบังคับผมไม่ได้ จรรยาบรรณต้องมี ถ้าผมไม่สะดวกให้สัมภาษณ์จะมาบังคับผมไม่ได้นะ
รณณรงค์ : มันหลายคำ อาจารย์โมโหคำว่าอะไร
เดชา : หลายคำครับ
รณณรงค์ : อันไหนที่หนักสุด
เดชา : ข้อความรวมๆ แหละ มีผู้หลักผู้ใหญ่โทร. มา เขาบอกว่าปล่อยไว้ไม่ได้ ผมก็ปล่อยไว้ไม่ได้แค่นั้น ข้อความดูไม่ดี คนดูหมิ่นเหยียดหยาม
รณณรงค์ : ผมมองว่าคำว่าทนายขยะ ถ้าเป็นผม ผมก็โมโห คำนี้น่าจะแรง คำอื่นก็เฉยๆ ระหว่างคุณแต๊งค์กับศรีสุวรรณโมโหใครมากกว่ากัน
เดชา : ปล่อยเขาไปเถอะ ให้ไปชี้แจงแล้วกันให้เป็นหน้าที่ตร. ณ วันนี้ผมไม่ตอบโต้อะไรใคร ผมไปแจ้งความทุกวัน มีเวลาว่างก็ไปแจ้งความแค่นั้น เพราะผมมั่นใจการทำงานของตร. ว่าผมได้รับความเป็นธรรมแน่นอน
ไม่ออกความเห็น คำไหนที่ทำให้ตัดสินใจฟ้อง ลั่นหลังจากนี้เลือกเวทีเล่นแล้ว
เดชา : ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็น ตอนนี้ผู้สื่อข่าวรอเต็มเลย เสียเวลาตั้งนานแล้ว ผมจะไปแจ้งความแล้ว
รณณรงค์ : คำว่าจุ๊กกรู๊ ชาวเน็ตเอาไปใช้ต่อ อาจารย์เก็บค่าลิขสิทธิ์ต่อไหม
เดชา : ลักษณะดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเสียหาย ผิดถูกก็ให้ศาลตัดสิน ผมนั่งทะเลาะทางโซเชียลก็สู้ไมได้ ตอนนี้ผมเลือกเวทีเล่น นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมดำเนินคดีทุกวัน
แต๊งค์ : (ยกนิ้วให้ทนายเดชา) ตอนนี้กังวลอยู่เรื่องเดียว กลัวแม่ด่า แม่เป็นห่วงผม ลูกยังเล็กอยู่ แต่ถ้าเขาเข้าใจผิด ไปแจ้งความผม ก็ว่ากันไป ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ ผมบอกแล้วผมวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริตใจ ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร
รับผิดหวังตร.แถลง อาจดูหนังมากเกินไปและตั้งความหวังไว้สูงเกินไป ยังเชื่อตัวการน่าจะเป็น แซน
แต๊งค์ : ผมทำใจตั้งแต่แรกแล้ว ผมไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อาจผิดหวัง เราอาจดูหนังเยอะไป ตั้งความหวังไว้สูง คาดหวังว่าตร.เก่งๆ คงมีแต่ในหนังล่ะมั้ง เฟล”
รณณรงค์ : “แซนดี้ - กระติกถ่ายรูปคู่กัน รู้สึกอะไรบ้าง
แต๊งค์ : ผมพูดไปก็หาว่าปกป้องกระติกอีก กระติกแต่เดิมเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้ ผมมั่นใจว่าคนเป็นตัวการน่าจะเป็นแซน เชื่อว่ากระติกรักแตงโมมาก คนในเน็ตบางคนมาด่าผมว่าทำไมปกป้องกระติก จริงๆ กระติกเขารักแตงโมมาก ผมพยายามตัดประเด็นเรื่องลวงไปขึ้นงานเอ็น กระติกไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว แตงโมเสื่อมเสียด้วย จริงๆ กระติกกับแตงโมเขาไม่ได้รับงานนี้อยู่แล้ว
เรื่องนี้ผมมีวิจารณญาณในการดู ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ตอนนี้คนแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ทนายก็ตีกันเอง แต่ตัวผมเอง มีส่วนนึงที่มองเห็นตรงกับตร. เป็นอุบัติเหตุใช่ แต่ติดใจที่มันไม่เคลียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ชัดเจน แล้วที่บอกว่าผิดหวังการทำงานของตร. เรื่องความเก่ง ดูอย่างแผลที่บอกว่าเข้ากับใบพัด
รณณรงค์ : ชาวบ้านที่มีสติปัญญาที่ดูภาพ มันผิดธรรมชาติ อาจมีตำแหน่งหล่นอื่นที่ไม่ใช่ท้ายเรือ แล้วแสงเงาที่ทำ ช่องอื่นทำชัดกว่านี้อีก เราไม่ต้องส่อง ไม่ต้องซูม ไม่ต้องขยาย เพราะเราไม่เห็นอะไรเลย ต้องมีจินตนาการเยอะ หลังจากเรื่องนี้ได้เห็นนิยายอีกหลายฉบับ เป็นซีรีส์มาเลย ใบพัดจะดูดขาคนเข้าไปเป็นแบบนั้นได้ไง เป็นไปไม่ได้