เผยสาเหตุ "ครอบครัว 4 ชีวิต" หลบหน้า เพราะวงเเชร์ล่มหนี้นับล้าน

สืบเนื่องมาจากโลกออนไลน์มีการเเชร์ให้ช่วยกันประกาศตามหา ทั้ง 4 ชีวิตคือ
1.นายนิรุตน์  บุญชู อายุ 41 ปี
2.นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี
3.ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี
เเละ 4.ด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี
อัพเดตล่าสุด 21 เม.ย.65 มีรายงานว่า น้องอุ้ยลูกสาวคนโต เผยล่าสุด สามารถติดต่อน้องชายคนเล็กได้เเล้ว หลังเดินทางไปกับครอบด้วย ทั้งหมดปลอดภัย 

  ล่าสุดนั้นทาง เพจบิ๊กเกรียน ได้เปิดสาเหตุที่ครอบครัวต้องหลบหนี  แยกย้ายค่ะ​
-ติดต่อ​ พูดคุยกับ​ 4​ ชีวิต​ หายห่วงปลอดภัย​
-พบสาเหตุ​ ที่หลบหน้า เพราะต้องหลบหนี้​ นับล้านบาท​ เกิดจาก​ ตั้งวงแชร์แล้วล่ม

 โดย ตำรวจได้ติดตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือของครอบครัวนี้ทั้ง 4 คน พบว่ามีการปิดมือถือพร้อมยกเลิกเบอร์ไปในเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พิกัดล่าสุดคืออยู่ที่ ลาดกระบัง ซึ่งมีรายงานว่านายนิรุตต์และภรรยา ได้ทำงานด้านบัญชี มีปัญหาหนี้สินในพื้นที่อยู่อาศัยโดยมีเจ้าหนี้หลายราย คาดว่ารวมๆเเล้วกว่า10ล้านบาท จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องหนีออกจากพื้นที่

-เผยยอดหนี้ "ครอบครัว 4 ชีวิต" อาจเป็นสาเหตุการหายตัวร่วม 10 วัน
-เผยพิกัดล่าสุด หลัง "ตร.แกะสัญญาณ" ครอบครัว 4 ชีวิตหายตัวกว่า 10 วัน
-ลูกสาวเผย "ติดต่อครอบครัว 4 ชีวิต" หายตัวปริศนากว่า 10 วันได้แล้ว

   สำหรับเรื่องราวปริศนาคนหาย ครอบครัว 4 ชีวิตชาวสุโขทัย ตำรวจ สภ.บ้านไร่ เร่งคลี่คลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยตั้งข้อสังเกตว่า 

- ข้อเท็จจริงวันที่ 2 เม.ย.2565 พ่อแม่ลูกรวม 5 คน ออกจากบ้านที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม ไปส่งลูกสาวคนโตเรียนที่ จ.เชียงใหม่ และวันที่ 6 เม.ย.2565 ลูกสาวคนโตบอกว่าออกจาก จ.เชียงใหม่ เวลาประมาณ 12.00 น. พ่อแม่บอกว่ากลับบ้าน เวลา 16.00 น. ลูกสาวคนโตยังติดต่อพ่อแม่ได้ 

- กล้องวงจรปิดตามด่านบันทึกภาพรถยนต์กระบะตั้งแต่วันที่ 2 - 6 เม.ย.2565 ได้หลายจุด โดยวันที่ 6 เม.ย.2565 รถยนต์กระบะขับมาที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และ วันที่ 7 เม.ย.2565 ขับผ่านบริเวณวชิรบารมี จ.พิจิตร เวลา 17.01 น. 
- คนรับซื้อรถยนต์กระบะ ให้ข้อมูลตำรวจพร้อมหลักฐานว่า น.ส.นฤมล ติดต่อซื้อขายรถยนต์กระบะตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. จนกระทั่งวันที่ 6 เม.ย.2565 คนรับซื้อติดต่อหา น.ส.นฤมล สอบถามเพื่อนัดดูรถยนต์กระบะ น.ส.นฤมล บอกอยู่บ้านที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม โดยคนรับซื้อเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปดูรถ แต่ น.ส.นฤมล นัดดูรถที่ ปั้มน้ำมัน จ.พิษณุโลก 

- วันที่ 7 เม.ย.2565 น.ส.นฤมล ขับรถยนต์กระบะ มาที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง เขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ใ้ห้คนรับซื้อดูรถ ซึ่งสภาพรถผ่านการตกแต่งเพิ่มเติม ซึ่งการทำสัญญาซื้อรถยนต์ถูกต้อง ผู้รับซื้อโอนเงินผ่านแอปธนาคารเข้าบัญชีของ น.ส.นฤมล 385,000 บาท ในเวลา 15.40 น. จากนั้น น.ส.นฤมล โอนเงินต่อไปยังบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งเพื่อปิดบัญชีเช่าซื้อในเวลา 15.50 น. จำนวน 374,230 บาท โดยเงินเหลือจากการขายรถ 10,770 บาท 

- ก่อนทำสัญญาณที่ร้านกาแฟภายในปั้มน้ำมัน นายนิรุตน์ ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สภาพเก่าประมาณ 10 ปี ตามเข้ามา แล้วชวนคนรับซื้อทานกาแฟ แล้วเข้าไปซื้อกาแฟมาให้ น.ส.นฤมล ดื่มขณะทำสัญญาซื้อรถยนต์ ไม่พบความผิดปกติ แต่ น.ส.นฤมล เล่าว่า สาเหตุที่ขายรถยนต์ไม่อยากมีภาระเพิ่ม ตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 ขาดรายได้ ๆ ไม่เพียงพอ ซึ่งหลังทำสัญญาซื้อรถยนต์จ่ายเงินเรียบร้อย น.ส.นฤมล ก็ขึ้นรถยนต์ที่ นายนิรุตน์ ขับมาออกไปจากปั้ม 

- คนรับซื้อรถยนต์ บอกว่า หลังซื้อรถยนต์ก็ขับรถเข้ามาในกรุงเทพฯ โดยกล้องวงจรปิดที่บริเวณวชิรบารมี จ.พิจิตร เวลา 17.01 น. วันที่ 7 เม.ย.2565 คนรับซื้อเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ในห้วงวันเวลาดังกล่าว 

- ตำรวจตรวจสอบข้อมูลกรรมสิทธิ์ครอบครองยานพาหนะพบว่า น.ส.นฤมล ครอบครองรถยนต์กระบะ(คันที่ขาย) 1 คัน และเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวสป้า รุ่นแอลเอ็กซ์150 จำนวน 1 คัน ส่วน นายนิรุตน์ ยังไม่พบข้อมูลกรรมสิทธิ์ครอบครองยานพาหนะ 

ขอบคุณ

ดาวแปดแฉก

บิ๊กเกรียน