ไม่ยอมจบ สามีเหยื่อลุงหัวร้อน ไปออกโหนกระแส คาดแค้นบุกทำร้ายกลางงานศพเมีย

17 กุมภาพันธ์ 2565

สามีเหยื่อลุงหัวร้อนเสียชีวิต หลังไม่ยอมจบ ไล่ทำร้ายอริกลางงานศพ คาดสางแค้นออกโหนกระแส หลังถูกพูดปมโมโหหลานหนีไปอยู่กับเพื่อน

กลายเป็นงานเศร้าสลดซ้ำซ้อน ลุงหัวร้อนไม่ยอมจบ ไล่เก็บอริ คาดสางแค้นปมออกโหนกระแส สืบเนื่องจากกรณีที่ น.ส.สุจิตรา เทพศิรินทร์รัตน์ วัย 35 ปี ถูก นายเสมา ขจรพันธ์ วัย 50 ปี ลุงของเด็กหญิงอายุ 14 ปียิงเสียชีวิต เพราะโกรธที่ เด็กหญิงอายุ 14 ปี หนีไปอยู่บ้าน น.ส.สุจิตรา เป็นสัปดาห์ 

สามีเหยื่อลุงหัวร้อนเสียชีวิตอีกราย หลังไม่ยอมจบ ไล่เก็บอริกลางงานศพ คาดสางแค้นออกโหนกระแส

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายกรีรติ ก๊กทรัพย์ หรือ แอ๊ป วัย 32 ปี สามี น.ส.สุจิตรา เทพศิรินทร์รัตน์ จมน้ำเสียชีวิต เพราะหนีคู่อริประมาณ 4-5 คนที่วิ่งไล่ทำร้าย ก่อนตัดสินใจโดดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณชุมชนหลังวัดดาวคะนอง ถ.จรัญสนิทวงศ์ 65 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่สวดพระอภิธรรมของน.ส.สุจิตรา


โดยหลังจากที่ ร.ต.อ.สุรัถกิจ กิตติธัชสุข รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งที่เกิดเหตุอยู่ในศาลาตั้งสวดพระอภิธรรมด้านข้างเมรุของทางวัด ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.สุจิตรา ผู้เสียชีวิตที่ถูกนายเสมา ลุงของ เด็กหญิงอายุ 14 ปี ยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


จากการตรวจสอบพบข้าวของในงานกระจัดกระจาย ส่วนผู้ถูกไล่ทำร้ายร่างกายเป็นญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตที่มากราบศพ ทราบว่าถูกคู่อริไล่ราว 4-5 คน ไล่ทำร้ายวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางก่อนหน้านี้ และมีผู้ที่ตัดสินใจกระโดดน้ำเจ้าพระยาบริเวณชุมชนหลังวัดสูญหายไป เบื้องต้นจึงประสานนักประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมาช่วยกันค้นหา

สามีเหยื่อลุงหัวร้อนเสียชีวิตอีกราย หลังไม่ยอมจบ ไล่เก็บอริกลางงานศพ คาดสางแค้นออกโหนกระแส

 

ก่อนพบร่าง นายกรีรติ ก๊กทรัพย์ สามีคนปัจจุบันของ น.ส.สุจิตรา สภาพจมอยู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยา สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ จึงมอบร่างให้แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ นำไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

ด้านนายวีรภัทร วัย 17 ปี ผู้บาดเจ็บ ให้การกับตำรวจหลังกลับมาถึงวัดว่า นายกรีรติ เป็นเพื่อนของรุ่นพี่ชวนตนและนายก้องเกียรติ นำอาหารมาเซ่นผู้เสียชีวิตที่ศาลา เพราะสวดอภิธรรมครบ 3 วันแล้ว และจะต้องฌาปนกิจในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 65 ซึ่งระหว่างที่อยู่ในศาลา 3 คน ก็มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 4 คน หญิงวัยรุ่น 1 คน ขี่จักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อมา 2 คัน มาจอดที่หน้าศาลา

 

จากนั้นทั้งหมดลงจากรถพร้อมมีดดาบ - ขวานครบมือ ปรี่เข้ามาทำร้ายพวกตนจนต้องหนีเอาชีวิตรอดกันไปคนละทิศคนละทาง ตนวิ่งหนีไม่ทันถูกมีดฟันนิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วชี้ มือซ้าย ต้องเย็บ 10 เข็ม ส่วนนายก้องเกียรติ ต้องหนีไปในห้องน้ำกุฏิสงฆ์ ขณะที่ นายกรีรติ ผู้เสียชีวิต ตนไม่ทราบว่าหนีไปทางไหน สุดท้ายมารู้ว่าหนีไปทางชุมชนหลังวัดไกลกว่า 300 เมตร แล้วกระโดดน้ำหนีไป แต่ก็เสียชีวิตในที่สุด


สำหรับสาเหตุการทำร้าย ตนเชื่อว่ามาจากคดีที่ น.ส.สุจิตราถูกยิง แล้วพวกตนไปออกรายการโทรทัศน์ ไปให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ อาจทำให้คนร้ายไม่พอใจ ย้อนมาทำร้ายพวกตนอีก เพราะตอนที่มาไล่ทำร้ายนั้น ผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มนั้นเป็นคนบอกชี้เป้าว่าใครคือใคร


ขณะเดียวกัน นางนันทวัน รักษาพรรณ มารดานายกรีรติ มาดูศพลูกชาย เปิดเผยว่า ปกติลูกชายเป็นช่างรับเหมาทาสีกับพ่อภรรยา พอรู้ข่าวก็ช็อก ไม่คิดว่าจะเกิดการสูญเสียแบบติดต่อกันแบบนี้ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ด้านในเชิงคดี ตำรวจจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดและเส้นทางที่คนร้ายใช้หนี และจะนำผู้บาดเจ็บ 2 รายไปสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสต่อไป

สามีเหยื่อลุงหัวร้อนเสียชีวิตอีกราย หลังไม่ยอมจบ ไล่ทำร้ายอริกลางงานศพ คาดสางแค้นออกโหนกระแส

ภาพจาก โหนกระแส และ เฟซบุ๊ก จึงจริง Jung Jing