เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

09 กุมภาพันธ์ 2565

กรณีของ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ออกมาแถลงข่าวแตกหักกับ สมปอง นครไธสง จากเรื่องเงิน โดยมีการแฉพฤติกรรมของทิดสมปอง ที่มีความทะเยอะทะยานอยากรวยเร็ว รวมถึงมีประเด็นเรื่องที่ทิดสมปองไปกู้เงินนอกระบบมาซื้อที่ดิน สปก. กว่า 300 ไร่ ไว้ปลูกยางพารา

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่สังคมกำลังจับจ้องกันในเวลานี้ สำหรับกรณีของ  เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ออกมาแถลงข่าวแตกหักกับ สมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง จากเรื่องเงิน โดยมีการแฉพฤติกรรมของทิดสมปอง ที่มีความทะเยอะทะยานอยากรวยเร็ว พอจะซื้อเสื้อผ้าให้ก็กดเลือกแต่เสื้อผ้าแพง ๆ หมดไปกว่า 80,000 บาท รวมถึงมีประเด็นเรื่องที่ทิดสมปองซื้อที่ดิน สปก. กว่า 300 ไร่ ไว้ปลูกยางพารา ด้วยนั้น

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

ซึ่งในเวลาต่อมานั้น นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าเบื้องต้นทราบจากข่าวแล้ว และได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่าที่ดินจุดที่ถูกกล่าวถึงนั้นอยู่ที่ไหน มีลักษณะเช่นไร ใช่พื้นที่ของ ส.ป.ก. หรือไม่

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

โดยจากการไปตรวจสอบนั้นพบว่า นายสมปอง นครไธสง กว้านซื้อที่ดิน ส.ป.ก. ในท้องที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา หรือให้ญาติถือครองที่ดินแทน ว่า เจ้าหน้าที่กำลังลงไปตรวจสอบที่ดินตามที่อยู่ของนายสมปอง ทั้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และนครราชสีมา แล้ว ซึ่งมีรายงานจาก ส.ป.ก.ชัยภูมิ ที่เข้าไปตรวจสอบทุกแปลงที่ที่เปิดเผยอยู่ในสังคมออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่นอกเขต ส.ป.ก. แต่มีบางแปลงที่อยู่ในเขต ส.ป.ก. พื้นที่ดังกล่าวมีการทำประโยชน์เป็นสวนมะพร้าว สวนหมาก ซึ่งเป็นการทำกินของเกษตรกรตามจุดประสงค์ของ ส.ป.ก. แต่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปตรวจสอบการถือครองด้วยว่าเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ หรือเป็นไปตามที่ข่าวเสนอว่าเป็นที่ดินของนายสมปอง

ซึ่งปรากฎพบว่า เราตรวจพบว่าเป็นสวนมะพร้าวกับสวนหมากมีประมาณ 6 ไร่ ไม่เยอะ ถ้าอยู่ใน ส.ป.ก. เรามีทะเบียนอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นอะไร เราจะเข้าไปตรวจสอบ แต่เราพบว่าแปลงนี้เป็นแปลงที่เกษตรกรเขาทำกิน ต้องตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ด้วย เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ในส่วนของที่ดินนอกเขต ส.ป.ก. มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูอยู่แล้ว ผมให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูอยู่ และจะดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ส่วนเรื่องของการทำกิน ตรงนี้เป็นเขตป่าสงวนเดิม คิดว่ามีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ทำมาหากินยังชีพอยู่”

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

ด้าน นายดุสิต กมลพาณิชย์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภูซำผักหนาม บ้านมอตาเจ็ก ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยเข้าตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก. อ้างว่าอยู่นอกเขตรับผิดชอบของ ส.ป.ก.ชัยภูมิ ซึ่งตรวจไปแล้วจำนวน 7 แปลง ซึ่งทั้ง 7 แปลง มีการบุกรุกแผ่วถาง ปลูกพืช และ 1 ใน 7 แปลง มีการปลูกยางพารา 6 แปลง ที่กรีดยางได้แล้วและต้นทุเรียน 1 แปลง ซึ่งทั้ง 7 แปลง ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง หากทราบชื่อผู้ครอบครอง จะเข้าแจ้งความต่อไป

 

โดย แหล่งข่าวจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย. 4 (คอนสาร) ให้ข้อมูลว่า ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูซำผักหนาม ทางราชการอนุญาตให้เกษตรกรปลูกพืชทำการเกษตร จำพวกสวนทุเรียน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และ สวนผลไม้ ที่ผ่านมามีการซื้อขายเปลี่ยนมือกัน โดยป่าไม้อนุญาตให้ทำกิน แต่ต้องไม่มีการบุกรุกป่าเพิ่ม ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่อยู่นอกเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน และขณะนี้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย. 4 (คอนสาร) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว  

รวมทั้งบ้านเรือนไทยสองชั้น ทิดสมปอง ภายในหมู่บ้านมอตาเจ๊ก หมู่ 14 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ บนเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูซำผักหนาม หรือไม่

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

โดยหลังจากที่เกิดข้อสงสัยในการครอบครอง ที่ดินของทิดสมปองนั้น ทางด้านของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ได้ให้ความเรื่องดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีการยกตัวอย่างเป็นข้อๆ 

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

1. ตามกฎหมายแล้ว การที่พระสงฆ์จะทำสัญญากู้เงิน ไม่ว่าจะนอกระบบหรือคนทั่วไป ในทางกฎหมาย พระสงฆ์ถือเป็นบุคคลธรรมดา สามารถทำสัญญาได้ไม่ผิดอะไร ที่สำคัญคือทิดสมปองลาสึกไปแล้ว ถึงแม้ว่าการกู้ยืมเงินที่เป็นข่าวอาจขัดทางธรรมวินัย และกฎเถรสมาคม ก็ไม่น่าจะเอาผิดย้อนหลังอะไรได้ครับ

2.ในส่วนของที่ดิน ที่เป็นข่าวว่าทิดปองครอบครองจำนวนสามร้อยไร่ ถ้าดูจากราคา 10.9 ล้าน ที่ดินสามร้อยไร่ไม่น่าซื้อได้แบบเป็นโฉนด น่าจะเป็นเอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ถ้าครอบครองคนเดียวที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่เลย ถ้าเป็น ส.ป.ก. 4-01 อันนี้เรื่องใหญ่ครับ เพราะบุคคลทั่วไป ไม่สามารถซื้อขาย โอนสิทธิกันได้ง่ายขนาดนั้น มีเงื่อนไขเยอะ เช่นต้องยากจน ครอบครองได้ไม่เกิน 50 ไร่และมีกฎหมายควบคุมด้วย ว่าแต่ละคนครอบครองได้จำนวนกี่ไร่ เพราะฉะนั้นต้องตรวจสอบกันอีกที ว่ามีจำนวนนี้จริงไหม และใครคือผู้ครอบครองสิทธิ แต่ถ้าคนๆเดียวหรือครอบครัวเดียวกันเป็นผู้ครอบครองจำนวนมากขนาดนี้ ก็อาจมีปัญหาได้ในอนาคต

3. ในส่วนของสัญญาจ้าง ถ้าเกิดทิดปองได้เซ็นสัญญากับนายจ้างจริง และผิดสัญญา ในส่วนนี้ นายจ้างสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ครับ การจะหยุดงาน ไม่ใช่แค่ว่า ไม่มีความสุข ไม่อยากทำ ก็หยุดทำได้เฉยๆ ต้องมาดูสัญญากันอีกทีว่าเป็นอย่างไร ยังไงผมแนะนำให้พูดคุยและหาทางออก จะอ้างว่าเซ็นไปไม่ได้อ่าน กฎหมายเขาไม่ฟังครับ

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

จากข้อมูลข้างต้นที่ทางไทยนิวส์ออนไลน์นำมารวบรวมให้ได้ฟังกันนั้น ก็ดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวนั้น จะทวีความดุเดือดขึ้นมาหลังจากที่วันนี้ (9 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อให้ตรวจสอบนายสมปอง นครไธสง ซื้อที่ดิน ส.ป.ก ในท้องที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพาราโดยให้ญาติถือครอง 

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

โดยที่ดิน ดังกล่าวอาจมีมากกว่า 5 แปลง บางส่วนอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอคอนสาร อำเภอหนองบัวแดง กิ่งอำเภอภักดีชุมพล อำเภอหนองบัวแดง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอแก้งคร้อ และอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2531 ซึ่งเป็นการประกาศให้อำเภอคอนสารเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ แต่บางแปลงอาจอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 538 ซึ่ง ส.ป.ก.ได้คืนพื้นที่บางส่วนออกมาจากเขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าว เพราะยังมีสภาพเป็นป่าไม้อยู่ แต่ทว่ากลับปรากฎมีการบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองไปเป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธณรมนูญไทย จึงจะนำความมาร้องเรียนต่ออธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อให้สั่งการให้มีการตรวจสอบที่ดินโดยละเอียดทั้งหมด และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเอาผิดผู้ที่ฝ่าฝืน ม.14 แห่ง พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ที่ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

หากผู้ใดฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตาม ม.31 มีอัตราโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น – 2 แสนบาท แต่ถ้ายึดครองมากกว่า 25 ไร่ และทำให้ไม้ยืนต้น และต้นน้ำลำธารเสียหายจะมีความผิดเพิ่มขึ้นเป็นโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 2 แสนถึง 2 ล้านบาทเลยทีเดียว นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นต่ออธิบดีกรมป่าไม้ ให้เร่งรัดตรวจสอบ เอาผิด ที่ดินของ นายสมปอง  และครอบครับ จากการตรวจสอบพบว่า มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในป่าสงวน และมีบางพื้นที่อยู่ในโครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. 

เปิดที่ดิน "ทิดสมปอง" หลังไปกู้เงินมาซื้อ รุกป่าสงวนหรือไม่?!

ส่วนเจ้าของกรรมสิทธิ์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นของผู้ใด จึงขอไม่เอ่ยชื่อ แต่พบว่า มีการเข้าไปใช้ที่ดินจริง ซึ่งหลักจากนี้ ต้องเข้าไปดูว่า ใคร เป็นผู้รับผิดชอบ และต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะหากเข้าไปใช้พื้นที่ทำให้ป่าสงวนเสื่อมโทรม โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบ มีการรุกพื้นที่กว่า 200 ไร่ โดยกำลังไล่สอบอยู่

“ต้องดูว่าหากครอบครองเกิน 25 ไร่ จะเป็นโทษแบบหนึ่ง จำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงินหลักล้านบาท ต่ำกว่า 25 ไร่ ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ขอยืนยันว่า ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ หากพบว่ากระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”

ส่วนคดีนี้สามารถเทียบเคียงกับกรณีของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “ผมไม่สนว่าเป็นใคร แต่หากพบการกระทำความผิด ก็ดำเนินการตามมาตรฐานของกฎหมายอยู่แล้ว”

ส่วนหากได้ที่ดินดังกล่าวมาในช่วงเป็นพระ จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่คอนเฟิร์มว่าเป็นของใคร ขณะนี้มีแต่คนบอกว่า เป็นของคนนั้นคนนี้ ตนยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ที่ยืนยันได้ คือ มีการบุกรุกแน่นอน