จีนพบไวรัสโคโรนา ในแก้วมังกรของเวียดนาม ลำไยไทยโดนด้วย

09 มกราคม 2565

จีนพบไวรัสโคโรนา ในแก้วมังกรของเวียดนาม ลำไยไทยโดนด้วย แต่จีนยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าพบมากน้อยเพียงใด

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ก็ได้โพสต์ถึงเรื่อง โควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ระบุว่า 

จีนพบไวรัสโคโรนา ในแก้วมังกรของเวียดนาม ลำไยไทยโดนด้วย

ความรู้เรื่องCOVID-19 (ตอนที่1067) 7มค.2565

จีนตรวจพบไวรัสโคโรนาในแก้วมังกรของเวียดนาม สั่งห้ามนำเข้าและกักตัวผู้เกี่ยวข้องใน 9 เมืองของประเทศจีนทันทีแล้ว

สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่มีความเข้มงวดกวดขันในการควบคุมโรคระบาดโควิดมากที่สุดในโลก

ทำให้ในขณะนี้อยู่ในอันดับที่ 115 มีผู้ติดเชื้อเพียง 103,295 ราย และเสียชีวิตจำนวน 4,636 ราย

ตลอดสองปีที่ผ่านมา นอกจากการตรวจอย่างเข้มงวดกวดขันเพื่อหาเชื้อไวรัส การกักตัวอย่างรวดเร็วทันท่วงที ตลอดจนการล็อกดาวน์ทั้งอำเภอหรือทั้งเมืองอย่างเข้มงวดแล้ว

ยังมีมาตรการ การตรวจสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและผลไม้

เมื่อพบว่ามีไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิดแม้เพียงนิดเดียว สินค้าก็จะถูกส่งกลับคืนทันที แล้วจะมีการกับตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทันทีด้วย

ในอดีตที่ผ่านมา เคยมีการตรวจพบในผลิตภัณฑ์ปลาแซลมอนจากยุโรป ไก่แช่แข็งจากอเมริกาใต้

และเมื่อกันยายนปีที่แล้ว มีการตรวจพบไวรัสโคโรนาในผลไม้จากเวียดนามด้วย

วันนี้ได้มีการแถลงข่าวว่า 9 เมืองในประเทศจีน ตรวจพบไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด บนผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่แก้วมังกร (Dragon fruit) ของประเทศเวียดนาม และมีการกล่าวถึง ลำไยของประเทศไทยด้วยแต่เป็นส่วนน้อย

จีนพบไวรัสโคโรนา ในแก้วมังกรของเวียดนาม ลำไยไทยโดนด้วย

 

โดยทางการจีนได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดทันที แม้มีหลักฐานน้อยมากหรืออาจจะนับว่าไม่มีเลย ที่ระบุว่ามนุษย์สามารถติดโควิดจากผลไม้หรือ package ของผลไม้ได้ก็ตาม

แต่ทางรัฐบาลจีนก็ดำเนินมาตรการเข้ม เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมโควิดไว้ก่อน

โดยในหลายเมืองที่ทางการจีนได้ให้เจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตและผู้ที่ไปซื้อผลไม้ดังกล่าวทำการกักตัวที่บ้าน และตรวจหาไวรัสทันที

ส่วนผู้ที่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่ไม่ได้เกี่ยวกับผลไม้โดยตรง ก็ให้ทำการตรวจหาไวรัสโดยไม่ต้องกักตัว

เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบกับเวียดนามเป็นอย่างมาก เพราะเวียดนามมีจีนเป็นตลาดส่งออกแก้วมังกรที่มากที่สุดเป็นอันดับแรกคือกว่า 80%

ส่วนผลกระทบของประเทศไทยยังไม่เห็นชัดเจน เพราะจีนยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าลำไยของประเทศไทยตรวจพบมากน้อยเพียงใด

จีนยังคงดำเนินนโยบายเข้มงวดกวดขันในการสู้กับไวรัสโคโรนา ไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ตาม

และเท่าที่ผ่านมา ก็รับมือได้ดีมาก อยู่ในอันดับต้นของโลกมาโดยตลอด

เมื่อมีสายพันธุ์โอมมิครอนซึ่งแพร่ระบาดได้ง่าย ก็คงจะได้ติดตามกันต่อไปว่า ด้วยมาตรการต่างๆที่เคยได้ผลดีมาโดยตลอดนั้น จีนจะยังคงรับมือโอมมิครอนได้สำเร็จหรือไม่

 

ขอบคุณ FB : Chalermchai Boonyaleepun