เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

22 ธันวาคม 2564

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม ให้นายสิระ เจนจาคะ ขัดคุณสมบัติความเป็นส.ส. พ้นสภาพส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

ข่าววันนี้ 22ธ.ค.64 ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส.ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดยล่าสุดศาลวินิจฉัยให้ นายสิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. จากการกระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา และให้จัดการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน เลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ใหม่

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

โดยกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) จากเหตุเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมาวลกฎหมายอาญา 

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

 

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า นายสิระ มีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผลให้สมาชิกสภาพส.ส.สิ้นสุดลง นอกจากนี้ยังต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย

  เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

-คำวินิจฉัยศาลรธน. "สิระ เจนจาคะ" ขัดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.
-ส.ต.ท. ตกทางด่วนดับ เป็นแฟนหนุ่ม เลขา ทิม พิธา ร้องไห้แทบขาดใจกำลังจะแต่งงาน
-เผยอาการแรกเริ่ม "โอไมครอน" หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ตรวจหาเชื้อ

เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ "สิระ"พ้นสภาพส.ส. ขัดคุณสมบัติความเป็นิส.ส.  ประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ ดังนี้

(๑) พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๒๑ วรรคสองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ วรรคสาม มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๙ วรรคสี่และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๒๒ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ วรรคสอง หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ ๕/๒๕๖๔)


ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางส่งคำโต้แย้งของจำเลยทั้งสอง (นายวิชัย
กฤษดาธานนท์ ที่ , และนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ ที่ ๒) ในคดีหมายเลขดำที่ อท ๒๑๔/๒๕๖๑ และคดีหมายเลขดำที่ อท ๒๘๘/๒๕๖๑ ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๒ ว่า พระรชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๒๑ วรรคสอง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ วรรคสาม มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง
 

และมาตรา ๒๙ วรรคสี่ และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๒๒ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ วรรคสอง หรือไม่


ผลการพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติ
มิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๒๑ วรรคสอง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ วรรคสาม มาตรา ๒๖
วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๔ วรรคสี่ และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙
มาตรา ๒๒ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๙ วรรคสอง


(๒) ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ () ประกอบมาตรา ๙๘ (๑๐) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ ๑/๒๕'๖๔)


ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
กรณีนายสิระ เจนจาคะ (ผู้ถูกร้อง) เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวันในคดีหมายเลขดำที่ ๘๑๒/๒๕๓๘ หมายเลขแดงที่ ๒๒๑๘/๒๕๓๘ เป็นกรณีที่ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๘ (๑๐)

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๖) โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิฉัย ตามมาตรา ๘๒ วรรคสอง และมีคำสั่งยกคำขอให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ช้อกล่วหาไว้ในสำนวน และให้หน่วยงาน


ที่เกี่ยวข้องชี้แจงตามที่ศาลกำหนด พร้อมจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง และกำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบ
มาตรา ๙๘ (๑๐) หรือไม่ นับแต่เมื่อใด

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

ผลการพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (๗ ต่อ ๒) วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๑๐) นับแต่วันเลือกตั้งคือวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒โดยตุลาการเสียงข้างน้อยจำนวน 6 คน คือ นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ และนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เห็นว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลง


เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ทำให้มีตำแหน่ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงและต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๕ วรรคหนึ่ง (๑) ประกอบมาตรา ๑๐๒จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง

เปิดคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ  สิระ เจนจาคะ พ้นสภาพ ส.ส. ปมเคยต้องโทษคดีฉ้อโกง

คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗๖ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน คือ วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔