จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ระยะที่ 3 ได้เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้า จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ย.- ธ.ค. 2564
โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมานั้น กรมบัญชีกลาง ได้เติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ให้กับผู้ถือบัตร จำนวน 13.5 ล้านคน ประจำเดือน ธ.ค. ซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัด และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าคนละครึ่งเฟส 3
สำหรับไทม์ไลน์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนที่ยังเหลือในเดือน ธ.ค. มีดังนี้
วันที่ 18 ธ.ค. 2564
- เงินคืนค่าไฟฟ้า ใช้ไม่เกิน 315 บาท ถึงเดือนกันยายน 65 กดเป็นเงินสดได้
- เงินคืนค่าน้ำประปาใช้เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และ ต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท เอง สามารถกดเป็นเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย
วันที่ 22 ธ.ค. 2564
- เพิ่มเงินเบี้ยความพิการ จำนวน 200 บาท ถึงเดือน ก.ย. 65 จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็นเงิน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เท่านั้น และ สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยได้
นอกจากนี้ยังมีเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (เดือนพ.ย.- ธ.ค. 64) รวมเป็น 500 บาทต่อคน ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. และรวมเป็น 1,800 บาท
สำหรับเกณฑ์การพิจารณาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบใหม่ ปี 2565
- รายได้ของครอบครัวจะต้องมีจำนวนไม่เกิน 200,000 บาท (เดิมมีการพิจารณารายได้เป็นรายบุคคล)
- ใช้หลักเกณฑ์เรื่องทรัพย์สินมาพิจารณา
- หากไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ที่ จุดรับลงทะเบียน
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเก่า จะต้องลงทะเบียนใหม่
คุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบใหม่ ปี 2565
- มีสัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- มีรายได้ไม่เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี
- ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน หรือมีได้ไม่เกิน 100,000 บาท (เช่น เงินฝากธนาคาร สลากออมทรัพย์ ตราสารหนี้)
- ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย หรือหากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิบ้านพร้อมที่ดิน ต้องมีบ้านหรือทาวน์เฮาส์ไม่เกิน 25 ตารางวา ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร และกรณีเป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร สามารถมีพื้นที่ได้ไม่เกิน 10 ไร่
- หากมีการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร สามารถมีพื้นที่ได้ไม่เกิน 1 ไร่
ขั้นตอนการลงทะเบียน
- ผู้ที่ต้องการลงทะเบียน สามารถเลือกธนาคารที่สะดวกได้ตามรายชื่อธนาคาร ดังนี้ 1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) 2. ธนาคารออมสิน และ 3. ธนาคารกรุงไทย
- แสดงหลักฐานยืนยันตนด้วย บัตรประชาชน
- กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม แจ้งข้อมูลส่วนตัว เช่น รายได้ ทรัพย์สิน หนี้สิน และอื่นๆ
- เก็บหลักฐานไว้ยืนยันการลงทะเบียน