กรุงไทย ชี้แจง เเอปฯเป๋าตังเปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พัน อนุมัติไว จริงหรือไม่

09 ธันวาคม 2564

จากกรณีที่มีข่าวลือว่า แอปพลิเคชันเป๋าตัง เปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พันบาท อนุมัติไวใน 3 นาที ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยชี้แจงแล้ว

ตามที่มีข่าวสารปรากฏในช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง แอปพลิเคชันเป๋าตัง เปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พันบาท อนุมัติไวใน 3 นาที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีส่งต่อข่าวสารเรื่องการเงินโดยระบุเป็นการสอนวิธียืมเงินสดจากแอปพลิเคชันเป๋าตัง จำนวน 5,000 บาท โดยใช้ระยะเวลาอนุมัติภายใน 3 นาที ทางธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงว่าธนาคารไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด

กรุงไทย ชี้แจง เเอปฯเป๋าตังเปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พัน อนุมัติไว จริงหรือไม่

โดยแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Wallet) รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ บริการกระเป๋าเงินอิเลทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-Wallet) รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็คสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม. รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีกยศ.สะดวก และรวดเร็วสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/th/personal/detail/201

 

 

กรุงไทย ชี้แจง เเอปฯเป๋าตังเปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พัน อนุมัติไว จริงหรือไม่

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารกรุงไทยไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารกรุงไทย

กรุงไทย ชี้แจง เเอปฯเป๋าตังเปิดให้ยืมเงินฉุกเฉิน 5 พัน อนุมัติไว จริงหรือไม่

ขอบคุณ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews