คปภ.สั่งห้ามยกเลิกประกันโควิด เจอจ่ายจบ ห้ามบังคับเปลี่ยนเงื่อนไข

15 พฤศจิกายน 2564

คปภ.ถกด่วนภาคธุรกิจประกันวินาศภัย ประกันภัยโควิด เจอจ่ายจบ ห้ามยกเลิกประกัน หากเปลี่ยนหรือยกเลิก ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย

   15 พ.ย.64 ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมประกันภัยวินาศภัยไทย มีหนังสือลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ประธานบอร์ด คปภ.) ขอให้พิจารณาทบทวน Macroprudential Supervision สำหรับการรับประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

  โดยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) พิจารณาทบทวนคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 เจอจ่ายจบ

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และต่อมานายกสมาคมประกันวินาศภัยมีหนังสือลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ขอเข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์วิกฤตจากการรับประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ รวมทั้งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่อง ข้อกำหนดห้ามไม่ให้บริษัทรับประกันเพื่อวินาศภัยอันเดียวกันเกินกว่า 10% ของเงินกองทุนตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535

คปภ.สั่งห้ามยกเลิกประกันโควิด เจอจ่ายจบ ห้ามบังคับเปลี่ยนเงื่อนไข

และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากหากเกิดความเสียหายขนาดใหญ่ขึ้นแล้วการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคงทางการเงินของบริษัทได้ ซึ่งจะเห็นว่ากรณีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ถือเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่ และได้ส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัยเกินกว่า 10% ไปเป็นจํานวนมาก นั้น

 

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และป้องกันมิให้ปัญหาลุกลามบานปลาย สำนักงาน คปภ. จึงได้มีหนังสือเชิญนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ทุกคนเข้าประชุมหารือกับเลขาธิการ คปภ. และคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. และรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมในวันนี้ (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) โดยมี   บริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัยโควิด เจอจ่ายจบ เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ ในวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2564 นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยและกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาและประมาณการค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ จะส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจจะส่งผลให้บริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ส่วนประเด็นการขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564  สมาคมฯ ให้ข้อมูลว่าการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท

คปภ.สั่งห้ามยกเลิกประกันโควิด เจอจ่ายจบ ห้ามบังคับเปลี่ยนเงื่อนไข

ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจะสูงขึ้นอีก จึงมีความจำเป็นที่ต้องขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันภัย COVID-19 ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันให้ยึดถือประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยสำนักงาน คปภ. ยินดีที่จะรับฟังข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมของรายบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบให้ตรงกับปัญหาของแต่ละบริษัท และส่งเสริมการทำทางเลือกให้ผู้เอาประกันภัยเลือกเปลี่ยนความคุ้มครองหรือประเภทกรมธรรม์ประกันภัยหรือทางเลือกอื่น ๆ ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จึงเห็นว่าบริษัทที่ประสบปัญหาสามารถใช้แนวทางนี้ในการบรรเทาผลกระทบไปก่อนได้

 

ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่อง การขอยกเลิกเงื่อนไข   การใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพราะสำนักงาน คปภ. เห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกัยภัยโดยภาพรวมด้วย ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป


เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมกับสมาคมฯ แล้ว เลขาธิการ คปภ. ได้ประชุมร่วมกับรองเลขาธิการ คปภ. ทั้งสามด้าน รวมทั้งผู้ช่วยเลขาธิการ สายงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมมีมติดังนี้


1. การดำเนินการในแก้ปัญหา สำนักงาน คปภ. จะยึดถือประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญ    
2. คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ยังมีผลบังคับตามกฎหมายอยู่ บริษัทต้องปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกัน จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการ ที่เหมาะสมต่อไป 


3. สำนักงาน คปภ. ได้รับทราบความเดือดร้อนของภาคธุรกิจและยินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พ้นวิกฤต โดยที่ผ่านมา คปภ. ได้ผ่อนคลายกฎกติกาให้ไปแล้วหลายเรื่อง แต่มาตรการการช่วยเหลือบริษัทที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด จะต้องขึ้นอยู่กับสถิติ ตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกต้อง แม่นยำและผลกระทบต่าง ๆ ในทุกมิติ ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และที่สำคัญจะต้องไม่ทำให้ผู้เอาประกันภัยเดือดร้อน และต้องไม่เป็นการรอนสิทธิของประชาชนผู้เอาประกันภัย 


4. จะเร่งเชิญบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ มาสอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการจัดทำ Stress Test เพื่อประเมินความทนทานของรายบริษัทและระบบประกันภัยภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงจำลองสำหรับการแพร่ระบาดของ COVID-19 


5. บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ อาจพิจารณา เข้าร่วมโครงการผ่อนผันเพิ่มเติม เพื่อเสริมมาตรการเยียวยาให้บริษัทมีสภาพคล่องพร้อมที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ให้กับผู้เอาประกันภัยได้มากขึ้น 

คปภ.สั่งห้ามยกเลิกประกันโควิด เจอจ่ายจบ ห้ามบังคับเปลี่ยนเงื่อนไข
6. หากสมาคมฯ ต้องการเสนอมาตรการผ่อนผันเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบ ให้เร่งนำเสนอ เพื่อสำนักงาน คปภ. จะได้กลั่นกรองและเร่งนำเสนอต่อบอร์ด คปภ. โดยเร็ว


7. ในระหว่างที่มีการดำเนินการข้างต้น หากบริษัทประกันวินาศภัยใดที่ประสบปัญหาต้องการดำเนินการเพื่อมิให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องลุกลามบานปลาย การเสนอแนวทางปรับปรุงเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 โดยเสนอทางเลือก\ที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทเดิม หรือปรับเปลี่ยนไปให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นที่อาจเป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น สามารถกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่อง ความสมัครใจของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น บริษัทไม่สามารถไปบังคับผู้เอาประกันภัยให้ยอมรับการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย หรือยอมรับเงื่อนไขความคุ้มครองใหม่ของบริษัท ดังนั้น การเปลี่ยนสิทธิหน้าที่หรือความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยจะสามารถกระทำได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้มีการแสดงเจตนา หรือให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งในการตอบรับข้อเสนอของบริษัทเท่านั้น

 

นอกจากนี้ ในกรณีของบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงและได้ตรวจสอบ\ข้อเท็จจริงแล้ว ได้รับการยืนยันว่า การดำเนินการของบริษัทเป็นการเสนอทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัย โดยเป็นไป ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จะไม่มีการบังคับผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด โดยเป็นวิธีการที่บริษัทพยายามหาแนวทางบริหารความเสี่ยงเพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องเพื่อให้อยู่รอดได้

 

และยืนยันจะปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน โดยสำนักงาน คปภ.ได้กำชับให้บริษัทดำเนินการดังกล่าว ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยไม่ยอมรับทางเลือกที่เป็นข้อเสนอของบริษัท สัญญาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยก็ยังมีผลบังคับต่อไปเหมือนเดิมทุกประการ


“ขอให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่า สำนักงาน คปภ. จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย แต่อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมที่จะรับฟังและหามาตรการเยียวยาปัญหาให้บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 ด้วย เพราะการประกอบธุรกิจประกันภัยต้องอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน”