เปิดรายชื่อ 3 จังหวัด "ภาคอีสาน" ฉีดวัคซีนโควิด ต่ำกว่า 40%

12 พฤศจิกายน 2564

ศบค.ชุดใหญ่ เผยรายชื่อ 3 จังหวัด ภาคอีสาน ฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่ำกว่า 40% ห่วงยอดฉีดเริ่มลด ทั้งที่ได้วัคซีนมาจำนวนมาก โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้ฉีดให้ได้จำนวน 80 เปอร์เซ็น

จากกรณี วันที่ 12 พ.ย.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ผอ.ศบค.เป็นประธาน ว่า เรื่องแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 

ทางด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำเสนอผลการฉีดวัคซีน ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 11 พ.ย. รับวัคซีนแล้ว 83.3 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 44.8 ล้านราย เข็มสอง 35.8 ล้านราย และเข็มสาม 2.7 ล้านราย มีทั้งคนไทยและต่างชาติในประเทศไทย โดยคนต่างชาติรับวัคซีนประมาณ 2.19 ล้านโดส เด็กอายุ 12-18 ปี ประมาณ 4.3 ล้านโดส เป็นไปตามมาตรการที่เราจะเปิดเรียน

รายชื่อ 3 จังหวัด ภาคอีสาน ฉีดวัคซีนโควิด ต่ำกว่า 40%

ส่วนการกระจายไปในจังหวัดต่างๆ นั้น จังหวัดที่ฉีดต่ำกว่า 40% คือ นครพนม บึงกาฬ และหนองบัวลำภู ฉีดได้ 40-49% 

ส่วนอีก 35 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยวที่ต้องฉีดมากกว่า 70% คือ หนองคาย ฉีดได้ 50-69% มี 30 จังหวัด และที่ฉีดได้มากกว่า 70% มี 9 จังหวัด คือ ปทุมธานี สมุทรสาคร สงขลา เชียงใหม่ กทม. สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต และฉะเชิงเทรา

 

- คลิปสุดท้าย "ส.จ.ดำ" เข้าหยิบของบนรถ ก่อนเกิดเหตุสลด!

- สั่งปิดแล้ว 3 โรงเรียน พบโควิดระบาด ครู-นร.ติดเชื้อ หลัง เปิดเทอมได้แค่ 3 วัน

- สาวรีวิวซื้อผักออนไลน์ บอกเอาอย่างละกำ พอของมาส่งลั่นถามจะกินหมดตอนไหน

กลุ่มจังหวัดที่ยังฉีดไม่ถึง 70% นั้นก็มีความเสี่ยง นายกฯ เน้นย้ำว่าการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ ฝากทุกภาคส่วนทั้งรัฐ องค์กรสื่อสาร ทำสื่อเรื่องวัคซีนสร้างความเชื่อมั่น อย่างค่าภูมิคุ้มกันทั้งสูตรปกติหรือสูตรไขว้ออกมาดีทั้งนั้น อย่างเดินทางไปสนามบินแสดงผลวัคซีนก็เดินทางได้ ซึ่งจะมีความสำคัญยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หากยังฉีดวัคซีนต่ำ แต่จะเปิดประเทศ เปิดกิจการกิจกรรมก็จะสวนทางกัน ในฐานะประชาชนที่เป็น 1 ใน 3 ความสำคัญร่วมกับภาครัฐและผู้ประกอบการ ถ้าเราช่วยกัน เราจะไปข้างหน้าได้เหมือนกับสิงคโปร์ที่นำหน้าเรื่องฉีดวัคซีน ขอความร่วมมือฉีดกันให้มาก

รายชื่อ 3 จังหวัด ภาคอีสาน ฉีดวัคซีนโควิด ต่ำกว่า 40%

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews