โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่ง

10 พฤศจิกายน 2564

โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการตุลาการ สรศักดิ์ วาจาสิทธิศิลป์ พ้นตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา ปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ พ้นตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1

จากกรณี วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เนื่องจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีมติเห็นว่าไม่เหมาะสม และไม่เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส จำนวน 2 ราย ดังนี้

1.นายสรศักดิ์ วาจาสิทธิศิลป์ พ้นจากตำแหน่ง รองประธานศาลฎีกา
2.นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1

และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งแล้วบัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการตุลาการ ทั้ง 2 ราย พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564  ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

 

โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ นายสรศักดิ์ ยังมีการเปิดเผยว่า ที่ ก.ต.มติเห็นว่าไม่เหมาะสม และไม่เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส เป็นปัญหาเรื่องของสุขภาพ ส่วน นายปรเมษฐ์ เป็นไปตามมติ ก.ต. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 เรื่องการผ่าน นายปรเมษฐ์ อธิบดีพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ช่วยทำงานผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไปดำรงตำเเหน่งผู้พิพากษาอาวุโส วาระ 1 ต.ค.หรือไม่

 

โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่ง

           (นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์)

 

- หนุ่มตัดพ้อ ช่วยรถตกถนน ไม่มีแม้แต่จะขอบคุณสักคำ

- ปศุสัตว์ ชี้แจงแล้ว หลังโผล่คลิปการฉีดฮอร์โมนเร่งโตในไก่ เสี่ยงเป็นมะเร็ง

- “น้อย วงพรู” กุมขมับ สั่งอาหารเหนือในร้านอาหารใต้ หลังเห็นป้ายติดหน้าร้าน

และก่อน ก.ต.ลงมติ นางเมทินี  ชโลธร ประธานศาลฎีกา และประธาน ก.ต.ในขณะนั้น ได้ออกจากที่ประชุมเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกนายปรเมษฐ์ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ และต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากายกฟ้องไปเเล้ว โดย ผลการลงมติครั้งเเรกก.ต.มีมติ 7 ต่อ 7 เสียงทำให้มีนางวาสนา หงส์เจริญ  รองประธานศาลฎีกา ประธานที่ประชุมเเทนนางเมทินี ลงมติชี้ขาด ไม่เห็นชอบ ทำให้ ก.ต.มีมติ 8 ต่อ 7 ไม่เห็นชอบนายปรเมษฐ์ให้ดำรงตำเเหน่งผู้พิพากษาอาวุโสต่อ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews